พาณิชย์สหรัฐเผยยอดการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ย.ทรุดตัวต่ำกว่าคาด 3.7%

          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลง เนื่องจากยอดก่อสร้างบ้านเดี่ยวร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 16 ปี
          ยอดการเริ่มสร้างบ้านใหม่ในเดือนพ.ย.ทรุดตัวลง 3.7% มาอยู่ที่ระดับ 1.187 ยูนิตต่อปี ซึ่งปรับตัวลงน้อยว่าที่นักวิเคราะห์จากทอมสัน ไอเอ็ฟอาร์คาดว่าจะร่วงลงแตะที่ 1.180 ล้านยูนิต หลังจากที่ยอดการเริ่มสร้างบ้านในเดือนต.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 4.2% ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านปรับตัวลดลง 1.5% แตะที่ 1.152 ล้านยูนิต ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าที่ลดลงแตะที่ 1.140 ล้านยูนิตเช่นกัน
          ตัวเลขสร้างบ้านโดยรวมของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเป็นผลจากยอดการสร้างบ้านเดี่ยวที่ทรุดตัวลง 5.4% ที่ระดับ 829,000 ยูนิต ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2534
          ทั้งนี้ ยอดการเริ่มสร้างบ้านในสหรัฐปรับตัวลดลงในทุกพื้นที่ ยกเว้นทางตอนใต้ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านทางภาคตะวันตกดิ่งลงต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ย.2536 ส่วนทางตะวันตกกลางลดลง 1.5% และทางตะวันออกเฉียงเหนือร่วงลง 16.3%
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ยอดการเริ่มสร้างบ้านเมื่อปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 24.2% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ร่วงลงหนักที่สุดตั้งแต่เดือนก.ย. โดยเฉพาะยอดการเริ่มสร้างบ้านเดี่ยวที่ร่วงหนักสุดในรอบปีถึง 34.9% ตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา