ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสินเชื่อSME ปี 51 โต 8-10% เพิ่มจากปี 50 ที่6-8%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 19, 2007 10:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มการขยายสินเชื่อเอสเอ็มอี ในปี 51 ว่ามีโอกาสเร่งตัวขึ้น หากเศรษฐกิจฟื้นหลังการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ผ่านพ้นไปด้วยดี โดยคาดว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย น่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 8-10% เทียบกับ 6-8% ในปี 50 เนื่องจากความต้องการสินเชื่อเอสเอ็มอีจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งน่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 51 เติบโตในกรอบที่ 4.5-6.0% จากปี50 ที่ 4.5% ประกอบกับ เกณฑ์ Basel II ที่จะมีการบังคับใช้จริงในสิ้นปี 51 จะทำให้การปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีมีน้ำหนักความเสี่ยงเครดิตที่ลดลงจากเดิมที่ 100% มาที่ 75% หรืออีกนัยหนึ่งคือ การปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีจะ “กิน" เงินกองทุนน้อยลงกว่าเดิม ทำให้ธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนเหลือไปปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติมได้มากขึ้น  ธนาคารพาณิชย์ที่มีพอร์ตลูกค้าเอสเอ็มอีจำนวนมาก จึงได้รับประโยชน์จากเกณฑ์ Basel II มากกว่า จึงคาดว่าธนาคารพาณิชย์ไทยยังคงรุกตลาดเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง 
ขณะเดียวกัน การปรับน้ำหนักพอร์ตสินเชื่อโดยลดการพึ่งพิงลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ลง จะช่วยทำให้พอร์ตสินเชื่อในภาพรวมมีความเสี่ยงด้านการกระจุกตัวของสินเชื่อ (Concentration Risk) ลดลงด้วย
นอกจากนี้ สินเชื่อเอสเอ็มอี ยังคงให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อรายย่อยบางประเภท ทำให้ธนาคารพาณิชย์สามารถรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ในภาวะที่เริ่มมีกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 51 อาจสดใสขึ้น เมื่อปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองคลี่คลายลง แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังเผชิญความเสี่ยงอีกหลายด้าน เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจากปัญหาความอ่อนแอในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง อัตราเงินเฟ้อที่มีทิศทางเร่งขึ้นตามการทยอยปรับเพิ่มราคาสินค้าและบริการ รวมถึงการที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศถึงจุดต่ำสุดแล้วและเตรียมเข้าสู่ช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น
ส่วนปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพของธนาคารพาณิชย์ไทยแม้จะน่าเป็นห่วง แต่ก็คงจะอยู่ในขอบเขตที่สามารถรับมือและจัดการได้ เนื่องจากระบบบริหารความเสี่ยงเครดิตของธนาคารพาณิชย์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก แต่เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะยังคงใช้ความระมัดระวังในการขยายสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ต่อไปในปี 51 ขณะที่คงจะต้องหาจุดสมดุลระหว่างการเร่งปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายและเพื่อผลตอบแทนกับความเสี่ยงด้านเครดิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อถูกกดดันให้ต้องขยายฐานลูกค้าลงไปสู่ระดับล่างของตลาดมากขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การแข่งขันในตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอีในปี 51 เชื่อว่าจะมุ่งเน้นไปที่การแข่งขันที่ไม่ใช่ราคามากขึ้น ผ่านการพัฒนากระบวนการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น การปรับเงื่อนไขการอนุมัติสินเชื่อที่ให้น้ำหนักกับกระแสเงินสดมากขึ้น (อาศัยหลักประกันลดลง) ตลอดจนการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละประเภท รวมทั้งการจัดรายการส่งเสริมการขายที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเนื่องจากการเจาะตลาดลูกค้าเอสเอ็มอีในระยะถัดไป คงจะต้องลงไปสู่เอสเอ็มอีตลาดล่าง หรือธุรกิจที่มีขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากและกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงทำให้น่าจะเห็นกลยุทธ์การแข่งขันในตลาดภูมิภาคที่เข้มข้นขึ้นเช่นกัน ทำให้อาจต้องอาศัยจำนวนพนักงานขาย และพนักงานดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาในต่างจังหวัดเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารพาณิชย์ไทย 9 เดือนแรกปี 50 ชะลอตัวลง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยสินเชื่อเอสเอ็มอีของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 ขยายตัว 6.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแม้จะเป็นอัตราที่สูงขึ้นจาก 5.7% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 50 แต่ก็ต่ำกว่า 8.7% ณ สิ้นปี 49

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ