นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "ยกระดับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐสู่การเป็นโชวห่วยไฮบริด" และปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "โชวห่วย-ไฮบริด Omni-Channel โอกาสของโชวห่วยไทย" โดยระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการ "โชวห่วย-ไฮบริด" ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนร้านค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดเล็กในทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีรายได้น้อยจำนวน 11.4 ล้านคน ตลอดจนเร่งยกระดับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกให้มีความแข็งแกร่งทั้งในส่วนของการประกอบธุรกิจ และการขยายช่องทางการตลาดเพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยใช้ระบบอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วยบริหารจัดการ
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้บูรณาการให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจำหน่ายสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป สินค้าจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club และสินค้าเอสเอ็มอีผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นการยกระดับร้านค้าฯ ให้กลายเป็น "ร้านโชวห่วย-ไฮบริด" ซึ่งร้านค้าฯ นอกจากจะจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคผ่านทางหน้าร้านปกติแล้ว ยังสามารถจำหน่ายสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป สินค้าจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club และสินค้าเอสเอ็มอีผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย ทำให้เกิดรายได้แก่ร้านค้าอีกทางหนึ่ง เพียงเจ้าของร้านค้าฯ มีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน หรือ แทปเลท และดาวน์โหลดพร้อมติดตั้งแอพพลิเคชั่น Shohuayhybrid (โชวห่วย-ไฮบริด) ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ และเป็นช่องทางกระจายสินค้าผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ รวมถึงร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้ากลุ่มดังกล่าวได้อย่างสะดวกและหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ากับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าปลีกขนาดเล็กอีกด้วย
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับแอพพลิเคชั่น Shohuayhybrid (โชวห่วย-ไฮบริด) เปิดโอกาสให้ร้านค้าและผู้ผลิตสินค้าที่ต้องการยกระดับตนเองสู่การจำหน่ายสินค้าแบบคู่ขนานทั้งช่องทางแบบดั้งเดิม (ออฟไลน์) และออนไลน์ หรือที่เรียกว่า กลยุทธ์การค้าหลากช่องทาง (Omni-Channel) สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Shohuayhybrid (โชวห่วย-ไฮบริด) เข้าไปติดตั้งในโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนหรือแทปเลท จากนั้นให้แสดงการยืนยันตัวตนการเป็นร้านค้าหรือผู้ผลิตสินค้าเพื่อเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น จากนั้นผู้ประกอบการจะได้รับชุดรหัสผ่าน (Token) เพื่อเข้าใช้งาน โดยผู้ผลิตสินค้าจะสามารถอัพโหลดสินค้าของตนเองเข้าสู่ระบบ พร้อมทั้งรายละเอียดต่างๆ อาทิ ราคาจำหน่าย เงื่อนไขการจำหน่ายสินค้า เป็นต้น
ในส่วนของร้านค้าจะสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นเพื่อสั่งซื้อสินค้าจากระบบโดยตรง และสามารถนำรายการสินค้าทั้งหมดในระบบให้ลูกค้าพิจารณาตัดสินใจสั่งซื้อได้ โดยไม่ต้องสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเก็บไว้ในร้าน หรือเรียกว่าระบบ Virtual SKU ทั้งนี้ ในระยะแรกได้พัฒนาให้รองรับโทรศัพท์ที่ใช้เฉพาะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เท่านั้น ระยะถัดไปจะมีการพัฒนาให้สามารถรองรับระบบปฏิบัติการ IOS ได้
นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น Shohuayhybrid (โชวห่วย-ไฮบริด) ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าปลีกรายย่อย สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางผู้จำหน่ายสินค้า (Trader) ได้ด้วย โดยรวบรวมสินค้าคุณภาพดีในท้องถิ่นของตนเองมาอัพโหลดเข้าสู่ระบบฯ อันจะเป็นการสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง
"กระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจำนวน 30,000 แห่งทั่วประเทศเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น Shohuayhybrid (โชวห่วย-ไฮบริด) เพื่อยกระดับสู่การเป็น Omni-Channel Retail ซึ่งจะเกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ผลิตสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป สินค้าจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club สินค้าเอสเอ็มอี และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ผลิตสินค้าฯ ขายของได้ - ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดการหมุนเวียนได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นช่องทางกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง" รมว.พาณิชย์กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2560 ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกทั้งประเทศมีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 1.83 ล้านล้านบาท คิดเป็น 13.9% ของ GDP ประเทศไทย เป็นอันดับ 3 รองจากภาคบริการ (32.6%) และภาคการผลิต (27.7%) เกิดการจ้างงานกว่า 2.9 ล้านคน คิดเป็น 27.5% ของการจ้างงานทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากภาคบริการ (44.8%)