นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานกสทช. ออกเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) โครงการ NET ห่างไกล Zone C จำนวน 15,723 หมู่บ้าน โดยจะอัพโหลดเอกสารผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ในวันที่ 10-17 ส.ค.นี้ และจะประกาศประกวดราคาไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ หรือในวันที่ 20 ส.ค.-14 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้ผู้ที่สนใจโหลดเอกสารในระบบ e-GP และยื่นเอกสารเสนอราคาในวันที่ 17-21 ก.ย.61 จากนั้นคณะกรรมการจะมีการพิจารณาผลประกวดราคาในวันที่ 24 ก.ย.-5 ต.ค.61 และจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประกวดราคาในวันที่ 8-12 ต.ค.61 ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาได้ประมาณต้นเดือน พ.ย.61
พร้อมกันนั้น กสทช.กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมประกวดราคา ต้องเป็นผู้รับใบอนุญาตโทรคมนาคมแบบที่ 1 หรือแบบที่ 3 จากสำนักงาน กสทช. โดยมีเงื่อนไข คือ ผู้รับใบอนุญาตโทรคมนาคมแบบที่ 1 ที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง ที่ได้รับใบอนุญาตแบบออโต้เมติกไลเซ่นส์ จะต้องมีรายได้จากการประกอบกิจการทางด้านโทรคมนาคมในรอบปีที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยต่อปีนับตั้งแต่เริ่มประกอบกิจการย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10% ของเงินลงทุนแต่ละสัญญา ซึ่งไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของโครงการระยะ 5 ปี (OPEX) เพื่อเป็นหลักประกันเบื้องต้นว่าบริษัทที่ชนะการประกวดราคาในโครงการนี้ เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และมีเงินลงทุนในการดำเนินงานเพียงพอ สามารถดำเนินงานตามโครงการได้ ไม่ก่อให้เกิดการทิ้งงานจนเกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตามพบว่ามีจำนวนผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม จำนวนกว่า 60 ราย ที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมประกวดราคาในครั้งนี้ได้
สำหรับโครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) ใช้กรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 19,674,785,365 บาท หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณ 3,935,000,000 บาท ในการดำเนินการ สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการจัดจ้างด้วยประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Bidding แบ่งออกเป็น 8 สัญญา ตามพื้นที่เป้าหมาย ดังนี้
1. สัญญาที่ 1 พื้นที่เป้าหมาย ภาคเหนือ 1 ประกอบด้วย จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน จำนวน 2,289 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,356 ล้านบาท
2. สัญญาที่ 2 พื้นที่เป้าหมาย ภาคเหนือ 2 ประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี จำนวน 1,851 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,325 ล้านบาท
3. สัญญาที่ 3 พื้นที่เป้าหมาย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 ประกอบด้วย จ.นครพนม บึงกาฬ มุกดาหาร เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี จำนวน 1,950 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,741 ล้านบาท
4. สัญญาที่ 4 พื้นที่เป้าหมาย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ประกอบด้วย จ.กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จำนวน 2,124 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,297 ล้านบาท
5. สัญญาที่ 5 พื้นที่เป้าหมาย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ จำนวน 2,099 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,650 ล้านบาท
6. สัญญาที่ 6 พื้นที่เป้าหมาย ภาคกลาง 1 ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี ชัยนาท ชุมพร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ระนอง ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี และอ่างทอง จำนวน 1,921 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,296 ล้านบาท
7. สัญญาที่ 7 พื้นที่เป้าหมาย ภาคกลาง 2 ประกอบด้วย จ.จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง ลพบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว และสระบุรี จำนวน 1,917 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,521 ล้านบาท
8. สัญญาที่ 8 พื้นที่เป้าหมาย ภาคใต้ ประกอบด้วย จ.กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา สงขลา และสตูล จำนวน 1,581 หมู่บ้าน วงเงินงบประมาณ 2,485 ล้านบาท
นายฐากร กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการฯดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการจะได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครบ 100% ได้ภายในเดือนพ.ค.62
ภายในโครงการจะมีจุดบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Wi-Fi หมู่บ้าน จำนวน 15,584 จุดบริการ คาดว่าจะเปิดให้บริการ Wi-Fi หมู่บ้าน 50% ภายในเดือน เม.ย.62 และ 100% ในเดือน พ.ค.62 ,มีอาคารศูนย์ USO NET ในโรงเรียน พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และจุดบริการ Wi-Fi พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ 228 โรงเรียน คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.62 และมีห้อง USO NET ในโรงเรียน พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และจุดบริการ Wi-Fi พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ 1,623 โรงเรียน คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนส.ค.62
อีกทั้งมีจุดบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Wi-Fi โรงเรียน พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 3,170 โรงเรียน รวมโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่จะได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 5,021 แห่ง คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนพ.ค.62 และมีจุดบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Wi-Fi โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบล (รพ.สต.) จำนวน 91 แห่ง คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนพ.ค.62
โดยทั้งหมดนี้สำนักงาน กสทช. จะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานให้บริการ และบำรุงรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี และเมื่อเปิดให้บริการแล้วจะมีแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตบ้านที่ราคาถูกกว่าราคาตลาดให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการฯ ได้ใช้งาน โดยแพ็คเกจปกติความเร็ว 30/10 Mbps ราคาต้องไม่เกิน 349 บาทต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)