นักวิเคราะห์ในสหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องจีนให้ปรับขึ้นค่าเงินหยวน เพื่อช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และจะช่วยให้จีนสามารถยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไปด้วย
ข้อมูลสถิติทางการค้าของอียูระบุว่า จีนแซงหน้าอังกฤษในฐานะแหล่งนำเข้าสินค้ารายใหญ่สุดของ 13 ชาติสมาชิกอียู ทั้งนี้ การที่จีนมียอดเกินดุลการค้ามูลค่ามหาศาลและเป็นประเทศส่งออกรายใหญ่ ทำให้จีนกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะขาดดุลการค้าทั่วโลก
นายคลอส เร็กลิง เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจของอียูกล่าวว่า เมื่อเดือนที่แล้วอียูและจีนสามารถตกลงกันได้เรื่องการใช้มาตรการหลีกเลี่ยงภาวะที่อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวอย่างผันผวนเกินไป แต่อียูกล่าวว่าหากจีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งแกร่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยยุโรปและสหรัฐ ซึ่งขาดดุลการค้ากับจีนจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังช่วยจีนและประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกด้วย
นักวิเคราะห์อียูกล่าวว่า ค่าเงินหยวนที่แข็งแกร่งจะช่วยให้จีนสามารถบริหารจัดการเศรษฐกิจได้ดีขึ้นและจะช่วยให้สกุลเงินอื่นๆในเอเชียแข็งแกร่งขึ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านมานั้น จีนพยายามควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ร้อนแรงเกินไป เนื่องจากจีนมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจำนวนมาก พร้อมกับแนะนำให้จีนระบายเงินส่วนนี้มาใช้แก้ปัญหาในด้านอื่นๆ
"เศรษฐกิจจีนมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ โดยเฉพาะดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ทะยานขึ้นไปแล้วกว่า 400% นับตั้งแต่ปี 2549" นักวิเคราะห์กล่าว สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--