ดอลล์อ่อนเทียบยูโรที่ตลาดฮ่องกงบ่ายนี้ หลังตัวเลขสร้างบ้านสหรัฐอ่อนแอ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้(19 ธ.ค.) เนื่องจากตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่ซบเซาในสหรัฐได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนกว่าจะเข้าสู่ไตรมาสแรกของปี 2551 
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการสร้างบ้านเดี่ยวในเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลง 5.4% แตะที่ 829,000 ยูนิต ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2544  ซึ่งรายงานดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสความหวั่นวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่มีธนาคารและบริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่หลายแห่งรายงานผลประกอบการขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากความเสียหายในตลาดซับไพรม์เพิ่มมากขึ้น
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.4418 ดอลลาร์ต่อยูโร จาก 1.4409 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ และจากระดับ 1.4406 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้
          ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยแตะที่ 113.29 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 113.30 เยนต่อดอลลาร์ในเช้าวันนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 113.42 เยนต่อดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา
          ฟิลิป วี นักวิเคราะห์จากดีบีเอส แบงก์คาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในไตรมาสแรกของปีหน้า โดยจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนม.ค. และอีก 0.25% ในเดือนมี.ค.
          ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนได้ลดตัวเลขประมาณการณ์การหั่นดอกเบี้ยในสหรัฐลง หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเมื่อเดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี