(เพิ่มเติม1) รัฐเซ็นสัญญาให้สัมปทานแก่เอกชนในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 8 แปลงสำรวจ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 19, 2007 13:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน เป็นประธานเซ็นสัญญาให้สัมปทานปิโตรเลียมเพื่อสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในเขตพื้นที่บนบกและทะเลอ่าวไทยจำนวน 7 สัมปทาน 8 แปลงสำรวจ หลังเปิดให้ผู้สนใจยื่นคำขอครั้งที่ 20
สัญญาสัมปทานดังกล่าว ประกอบด้วย แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G4/50 ให้แก่บริษัท เชฟรอน ปิโตรเลียม ประเทศไทย และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น, หมายเลข G5/50 ให้แก่บริษัท นิวคอสตอน ประเทศไทย, หมายเลข G6/50 ให้แก่บริษัท เชฟรอน ปิโตรเลียม ประเทศไทย, บริษัท ปตท.สผ.โครงการไทย และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น
หมายเลข G7/50 ให้แก่บริษัท เชฟรอน ปิโตรเลียม ประเทศไทย, บริษัท ปตท.สผ.โครงการไทย, บริษัท เฮสส์ เอ็กซ์โพลเรชั่น(ประเทศไทย) และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น, หมายเลข G8/50 ให้แก่บริษัท เชฟรอน ปิโตรเลียม ประเทศไทย, บริษัท ปตท.สผ.โครงการไทย และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น
ส่วนแปลงสำรวจบนบก หมายเลข L7/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เลย และหมายเลข L13/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร ให้แก่บริษัท TWINZA Oil Limited, หมายเลข L26/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ให้แก่บริษัท ซาลาแมนเดอร์เอ็นเนอร์ยี อีแอนด์พี ลิมิเต็ด
วิธีสำรวจใช้วิธีทางธรณีฟิสิกส์วัดความเคลื่อนไหวแบบสองมิติระยะทาง 900 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1,000 ตารางกิโลเมตร และเจาะสำรวจ 7 หลุม ในช่วงระยะเวลาตามข้อผูกพัน 3 ปีแรกของการสำรวจเป็นเงิน 42 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,470 ล้านบาท ส่วนผลประโยชน์พิเศษในรูปโบนัสของการลงนามจะมีทุนการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งหากสำรวจพบปิโตรเลียมจะมีการลงทุนในช่วงที่ 2 ต่ออีก 3 ปี ซึ่งจะใช้เงินลงทุนอีก 74 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,590 ล้านบาท
ปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถปิโตรเลียมในรูปแบบของก๊าซธรรมชาติ คอนเดนเซท และน้ำมันดิบ คิดเป็นปริมาณเทียบเท่าน้ำมันดิบได้วันละ 6.3 แสนบาร์เรล โดยในปีงบ 50 รัฐมีรายได้จากการประกอบกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเป็นเงิน 106,502 ล้านบาท ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม 33,996 ล้านบาท ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ 7,197 ล้านบาท ภาษีเงินได้ 62,609 ล้านบาท และรายได้จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียอีก 2,700 ล้านบาท
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มี 2 บริษัทยื่นคำขอรับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมในรอบที่ 20 คือ บริษัท JSX Energy จำกัด ยื่นขอสัมปทาน 1 แปลง คือ L3/50 และบริษัท KRA Energy จำกัด ยื่นขอสัมปทาน 5 แปลง คือ L10/50, L11/50, L17/50, L24/50 และ L25/50 ซึ่งเป็นแปลงสำรวจบนบกทั้งหมด
ล่าสุดจนถึงขณะนี้การขอสัมปทานในรอบที่ 20 นี้ ได้ทำให้เกิดมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 5,500 บาท และเป็นการลงทุนในระหว่างปี 51-53
นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า แปลงสัมปทานของ บริษัท ปตท.สผ. โครงการไทย จำกัด หรือ PTTEP TP หมายเลข G6/50 G7/50 และ G8/50 ดังกล่าวเป็นแปลงขนาดเล็ก และมีปริมาณสำรองจัดอยู่ในระดับ Marginal Field การพัฒนาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแปลงดังกล่าวคือ การใช้อุปกรณ์การผลิตที่มีอยู่ของโครงการยูโนแคล 3 โครงการไพลิน และโครงการอาทิตย์ ซึ่งทำให้คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการทั้งหมด
ทั้งนี้ บริษัท ปตท.สผ. โครงการไทย จำกัด หรือ PTTEP TP เป็นบริษัทย่อยของ PTTEP

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ