รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบงบประมาณจำนวน 4,582,300 ดอลลาร์สหรัฐ และแผนการดำเนินงานประจำปี 2562 ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย พ.ศ.2533 เพื่อสวมสิทธิและรับผิดชอบแทนรัฐบาลทั้งสองในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีชีวิตในพื้นดินใต้ทะเลและใต้ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วม โดยมีหลักการที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและผลประโยชน์ที่องค์กรร่วมฯ ได้รับจากกิจกรรมที่ดำเนินไปในพื้นที่พัฒนาร่วม รัฐบาลทั้งสองประเทศจะร่วมรับผิดชอบและแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกัน
โดยทั้งสองประเทศได้แต่งตั้งคณะกรรมการองค์กรร่วมฯ เพื่อเป็นตัวแทนของรัฐบาลทั้งสองในการควบคุมการสำรวจและแสวงประโยชน์และเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดนโยบายสำหรับการควบคุมนั้น ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการองค์กรร่วมฯ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.61 ได้เห็นชอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2562 ขององค์กรร่วมฯ จำนวน 4,582,300 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 หรือ 313,700 ดอลลาร์สหรัฐ จากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติในปี 2561 เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) เพิ่มขึ้น
โดยงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการจัดงานครบรอบ 40 ปี ของการจัดตั้งองค์กรร่วมฯ การปรับขึ้นเงินเดือนของบุคลากรตามการปรับโครงสร้างองค์กร ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานครบวาระ และการทำกิจกรรม CSR รวมทั้ง ได้มีการคาดการณ์เกี่ยวกับผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินริงกิต คณะกรรมการองค์กรร่วมฯ จึงมีมติให้ปรับอัตราแลกเปลี่ยนในปี 2562 โดยกำหนดให้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 3.8 ริงกิต (ปี 2561 อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 4.0 ริงกิต) กระทรวงพลังงานพิจารณาแล้วคำของบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2562 ขององค์กรร่วมฯ ที่เสนอนี้ มีรายละเอียดประกอบครบถ้วนตามระเบียบการเสนอของบประมาณ
กระทรวงพลังงานจึงเสนอ ครม.เพื่อให้ความเห็นชอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานดังกล่าว โดยขอใช้เงินจากการขายปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 จำนวน 4,450,775 ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณเหลือจ่ายของปี 2560 จำนวน 131,525 ดอลลาร์สหรัฐ