นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากร ได้เสนอปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีการท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งตามร่างกฎกระทรวงฯ ที่เสนอในครั้งนี้ กำหนดให้สามารถนำค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้ ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท
(1) ค่าที่พักโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
(2) ค่าที่พักโฮมสเตย์ที่ได้รับรองมาตรฐานจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงโฮมสเตย์ที่ได้จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวรองและพื้นที่อื่นๆ ที่มีการประกาศกำหนด
(3) ค่าบริการนำเที่ยว หรือแพ็คเกจทัวร์ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในกรณี ดังนี้
3.1 แพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวรอง
3.2 แพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีการประกาศกำหนด
3.3 แพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวรองร่วมกับพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวรอง โดยต้องมีการพักแรมในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวรอง
3.4 แพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีการประกาศกำหนดร่วมกับพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวรอง โดยต้องมีการพักแรมในพื้นที่ที่มีการประกาศกำหนด"
ทั้งนี้ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวข้างต้น จะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นการขยายขอบเขตการท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองให้กว้างขวางยิ่งขึ้น อันจะเป็นการช่วยกระจายรายได้สู่ประชาชนในท้องถิ่น และเพิ่มทางเลือกในการท่องเที่ยวของประชาชน
อนึ่ง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (14 ส.ค.) ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ที่กำหนดให้มีการปรับปรุงเงื่อนไขสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่อื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น