นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ภัทร กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ควรเร่งกระตุ้นการลงทุน เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันระบบเศรษฐกิจยังขาดการลงทุน ไม่ใช่การบริโภค ขณะที่มาตรการกันสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้นยังเป็นมาตรการจำกัดการลงทุน ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนและทำให้ตลาดทุนเกิดการบิดเบือน
เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวประมาณ 4.6-4.7% เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากขึ้นทั้งการบริโภคและการลงทุน แม้เศรษฐกิจจะเติบโตในอัตราใกล้เคียงกับปีนี้ แต่ระบบเศรษฐกิจมีความสมดุลมากกว่า เพราะปีหน้าจะมีการเน้นการลงทุนในประเทศมากกว่าการส่งออก
สำหรับปัจจัยเสี่ยงในปีหน้า ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นรัฐบาลผสมมีนโยบายยังไม่ชัดเจน และราคาน้ำมันที่ยังคงผันผวน เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
นายศุภวุฒิ คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,000 จุดในช่วงกลางปีหน้า แต่หลังจากนั้นดัชนีจะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับการกำหนดนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลใหม่
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม เชื่อว่า สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของไทยในปีหน้าจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปีนี้มากนัก เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้จะยังคงมีผลต่อเนื่องไปในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง, ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง และ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--