กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.2550 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากราคานน้ำมันดิบที่สูงขึ้นส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าขยายตัวขึ้น ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 3
ยอดเกินดุลการค้าในเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 12.2% จากสถิติในปีก่อนหน้านี้ แตะระดับ 7.97 แสนล้านเยน ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่ายอดเกินดุลการค้าจะอยู่ที่ 9.06 แสนล้านเยน
"ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและยอดส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐที่ลดลงส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าร่วงลงไปด้วย" เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลังกล่าว
"ภาวะวิกฤตซับไพรม์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ซึ่งพิสูจน์ได้จากยอดส่งออกวัสดุก่อสร้างที่ลดลง"
ยอดนำเข้าในเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.2% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.475 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยพุ่งขึ้น 35.4% แตะระดับ 81.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนมูลค่านำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 50.7% ส่งผลให้ยอดนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 7.3% ยอดนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว เพิ่มขึ้น 36.5% ส่งผลให้ยอดนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 1.4%
ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 9.7% แตะระดับ 7.272 ล้านล้านเยน นับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 48 ซึ่งเป็นผลมาจากยอดส่งออกรถยนต์และอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกสินค้าไปสหรัฐปรับตัวลดลง 6.0% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่ได้ร่วงลงในเดือนต.ค.และก.ย. นับเป็นครั้งแรกที่ยอดส่งออกสินค้าของสหรัฐลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่การร่วงลงนาน 14 เดือนจนถึงเดือนก.พ.2547 สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--