ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลเข้ารายงานคาดการณ์เศรษฐกิจหลังเลือกตั้งต่อนายกรัฐมนตรีเช้าวันนี้ เตือนรัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายบริหารจัดการและการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน อย่าเพิ่งรีบเร่งยกเลิกมาตรการ 30% แต่ควรรอจังหวะที่เหมาะสม คาดปี 51 เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง 5-6% จากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดีและไม่ได้รับผลกระทบจากซับไพร์มมากนัก ขณะที่การลงทุนที่น่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากยอดที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รวมทั้งการบริโภคที่จะตามมา
"มาตรการ 30% มีหลายพรรคการเมืองมีนโยบายยกเลิก ก็เห็นด้วยหากถึงเวลาที่เหมาะสม แต่ตอนนี้ควรจะผ่อนปรนไปก่อน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ยกเลิกไปได้"นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเข้ารายงานภาวะเศรษฐกิจต่อนายกรัฐมนตรี ร่วมกับรมว.คลัง และผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
นายโฆสิต กล่าวว่า กระทรวงการคลัง และ ธปท.เชื่อว่าเศรษฐกิจภายหลังการเลือกตั้งน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการลงทุนที่จะมีอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากยอดที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว 7 แสนล้นบาทที่ถือว่าสูงสุดในรอบหลาย ๆ ปี ซึ่งกำลังจะเริ่มลงทุนหลังมีรัฐบาลชุดใหม่
ส่วนการส่งออกคาดว่าน่าจะเติบโตราว 10-12% ในปี 51 และไม่ใช่ประเด็นน่าเป็นห่วงมากนัก เพราะความกังวลที่ว่าส่งออกของไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มนั้น มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าจะกระชากลงรุนแรงและจะไม่กระทบต่อการส่งออกของไทยมากนัก หากรัฐบาลชุดใหม่สามารถหาตลาดใหม่ ๆ ได้ รวมถึงเศรษฐกิจของจีนยังทรงตัวอยู่ ส่วนการบริโภคก็น่าจะเติบโตตามมา
นายโฆสิต กล่าวว่า ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือ ต้องดูแลราคาน้ำมัน และการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจให้ดี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่รับได้ โดยในวันนี้ นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง รายงานผลการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ พบว่าการบริโภคเริ่มฟื้นตัวอย่างมาก เห็นได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในไตรมาส 4/50 ประชาชนเริ่มมีการจับจ่ายมากแล้ว
ขณะที่ผู้ว่าการ ธปท.รายงานเกี่ยวกับภาวะการเงินว่า เสถียรภาพด้านการเงินเริ่มดีขึ้น นโยบายต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการมา ถือว่ามาถูกทาง
ภาพรวมทั้งหมดนั้นหากจะมีผลกระทบจากต่างประเทศที่เราคาดไม่ถึง รัฐบาลก็พร้อมจะเข้าไปบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่ได้ฝากนโยบายให้รัฐบาลชุดใหม่ แต่ก็มีท่าทีที่พอใจกับภาพรวมเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการมา เพียงแต่กำชับให้ติดตามสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พยายามส่งมอบงานให้รัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วที่สุด และจะไม่อนุมัติโครงการใหม่ที่จะผูกพันถึงรัฐบาลชุดต่อไป
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--