พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่จังหวัดชุมพรว่า ในวันนี้ไม่ได้มีการอนุมัติโครงการใดทั้งสิ้นเป็นเพียงการมารับฟังข้อเสนอของภาคเอกชนทั้ง 11 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง) และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล) โดยโครงการส่วนใหญ่ 80% ที่ภาคเอกชนเสนอมีอยู่ในแผนแม่บทของกระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งในวันนี้รัฐบาลได้นำข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อใช้สำหรับการพิจารณาและการพัฒนาโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้รัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor: SEC) ที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในทุกด้าน รวมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร และต้องบริหารจัดพืชเกษตรสำคัญ คือ ข้าว ปาล์ม ยางพารา อ้อย และข้าวโพด โดยมอบหมายให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อมูล Big Data วิเคราะห์ข้อมูลในการทำการเกษตร รองรับกฎกติกาของนานาชาติ ส่วนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมนั้นขอให้เป็นไปตามการบริหารจัดการของรัฐบาล และเป็นไปตามความต้องการและประสิทธิภาพของคนในพื้นที่ พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลทำตามกรอบและแผนงานทุกอย่าง
ส่วนเรื่องของโครงการการทำประชารัฐและไทยนิยมมีความก้าวหน้าเป็นจำนวนมาก ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น การลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ ซึ่งได้มีการดำเนินงานระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน และแม้ว่าการประชุม กรอ.ไม่ได้อนุมัติทุกโครงการที่นำเสนอมา แต่ยืนยันว่าเศษฐกิจในประเทศดีขึ้นมาก และขอประชาชนอย่าทำให้ประเทศถอยหลังด้วยเรื่องการเมือง ไม่เช่นนั้นประเทศจะกลับสู่ที่เก่า
พร้อมย้ำด้วยว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง หรือจะไปเลือกตั้งแข่งกับใคร