คณะกรรมการแข่งขันทางการค้ามีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวน บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ผู้จำหน่ายเบียร์อาชา หลังคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องได้ตรวจสอบแล้วพบว่าจำหน่ายเหล้าพ่วงเบียร์และขายเบียร์ราคาต่ำกว่าทุน ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 25(2) และมาตรา 29 ตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งถือเป็นการจำกัดการแข่งขัน และมีผลทำลายคู่แข่ง
"คณะกรรมการฯ มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวน หลังจากคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ข้อร้องเรียนมีมูลความจริง" นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว
ก่อนหน้านี้บริษัท สิงห์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จำหน่ายเบียร์ลีโอ และสิงห์ ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการฯ ว่า บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ผู้จำหน่ายเบียร์อาชา ใชกลยุทธ์จำหน่ายเหล้าพ่วงเบียร์และขายเบียร์อาชาในราคาต่ำกว่าต้นทุน โดยขายปลีกในราคาลังละ 240 บาท หรือ 5 ขวด 100 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาโรงงาน ตามประกาศกรมสรรพสามิตที่กำหนดไว้ลังละ 326.40 บาท หรือขวดละ 27.20 บาท และต่ำกว่าราคาขายส่งที่ลังละ 371 บาท
"จากนี้ไปคณะอนุกรรมการสอบสวนจะทำหน้าที่เหมือนตำรวจที่จะต้องไปสอบสวน ทั้งประเด็นการขายพ่วง และขายต่ำกว่าทุน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยเมื่อได้ข้อสรุปแล้วให้เสนอคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าพิจารณาก่อนที่จะส่งอัยการเพื่อฟ้องร้องต่อไป" นายยรรยง กล่าว
ส่วนกรณีข้อร้องเรียนบริษัท แอบบอต แลบอราทอรี่ส์ จำกัด(ประจำประเทศไทย) ได้ยื่นขอถอนการขึ้นทะเบียนยาอลูเวีย รักษาโรคเอดส์นั้น คณะกรรมการมีความเห็นเช่นเดียวกับข้อสรุปของคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องว่า แอบบอตไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 25(3) เพราะไม่ได้จำกัดการแข่งขัน และไม่มีอำนาจเหนือตลาด ส่วนความผิดตามมาตรา 28 กรณีคนที่อยู่ในต่างประเทศ(บริษัทแม่แอบบอต) บังคับให้บริษัทแอบบอตในประเทศไทยจำกัดการขาย เห็นว่าไม่เข้าข่ายเช่นเดียวกัน
"คณะกรรมการฯ เห็นว่า การถอนการขึ้นทะเบียนยา ไม่ใช่การจำกัดการแข่งขัน การซื้อยา แต่การขึ้นทะเบียนยาเป็นความประสงค์ของเจ้าของยาที่ต้องการให้ทางการยืนยันว่า เป็นยาที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ที่สำคัญยังมีกฎหมายอื่นที่ดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว เช่น กฎหมายสิทธิบัตร" นายยรรยง กล่าว
สำหรับกรณีที่บริษัท กานดา ซัพพลาย ได้ฟ้องชมรมเอเยนต์ ว่าทำผิดกฎหมายแข่งขัน เพราะต่อรองให้สำนักพิมพ์ และบริษัทรวมห่อไม่จัดส่งหนังสือให้บริษัท กานดาฯ ทำให้สูญเสียรายได้นั้น กรมค้าภายในในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ ได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีมูล จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนว่ามีความผิดตามมาตรา 27 และ 29 หรือไม่
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนพิจารณากรณีที่บริษัท เจียเม้ง มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตข้าวถุงหงส์ทอง ได้ร้องเรียนบริษัท เซ็นคาร์ ผู้บริหารห้างค้าปลีกคาร์ฟูร์ว่ามีการจำหน่ายข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัมในราคาต่ำกว่าทุน ซึ่งถือเป็นความผิดตามมาตรา 29
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--