กรมสรรพสามิต ชี้แจงกรณีมีการโพสต์เฟซบุ๊กกรณีบริษัทเชฟรอนหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีน้ำมันสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มว่า กรณีที่บริษัทเชฟรอนมีการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากในราชอาณาจักรไปยังแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่ตั้งอยู่บนไหล่ทวีปเพื่อใช้ในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน และมีความซับซ้อนของข้อกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับภาคเอกชนและรักษาประโยชน์ของทางราชการ จึงได้มีการหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อขอคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่มีคำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาออกมาแล้วว่าการส่งน้ำมันไปใช้ที่แท่นขุดเจาะไม่ถือเป็นการส่งออก กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทเชฟรอนได้มาชำระภาษีสรรพสามิตเต็มจำนวนเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่สำนักงานสรรพสามิต จังหวัดระยอง 1
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้มีการยื่นคำของดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามกฎหมายและกรมสรรพสามิตได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำคัดค้านการประเมินภาษีและพิจารณาการงดหรือลดเบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ซึ่งได้มีการประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง (ก.ค. 60 – ก.ค. 61) และขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาข้อยุติ
อนึ่ง ในเฟซบุ๊กได้มีการเผยแพร่ข้อมูลว่ากรมสรรพสามิตไม่ดำเนินการปรับเชฟรอน แต่เก็บเฉพาะภาษีสรรพสามิต ประมาณ 2,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งความผิดของเชฟรอนคือการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีและสำแดงการส่งออกเป็นเท็จ พร้อมตั้งคำถามถึงกรมศุลกากรว่ามีการพิจารณาความผิดฐานสำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงภาษีอากรหรือไม่ อย่างไร เพราะมีหลักฐานว่าเชฟรอนถูกจับน้ำมันเถื่อนที่ด่านสงขลา 1.6 ล้านลิตร นอกจากนี้ ในภายหลังกรมศุลกากรยังมีการยกเลิกใบขนสินค้าที่เป็นการสำแดงการส่งออกเป็นเท็จ เพื่อไม่ต้องปรับเชฟรอน โดยให้จ่ายเฉพาะภาษีสรรพสามิตเท่านั้น ใช่หรือไม่