นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เห็นชอบแนวทางการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหลังจากหมดภาระหนี้สินแล้ว โดยจะลดการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ลงส่วนหนึ่งจากปัจจุบันมีเพดานสูงสูงถึง 4 บาทต่อลิตร โดยจะเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อคงสถานะกองทุนน้ำมันไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท สำหรับชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ให้ถูกกว่าน้ำมันเบนซินปกติในอัตรา 4 บาทต่อลิตร และ 3.70 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซล บี5 ให้ถูกกว่าน้ำมันดีเซล 0.50-1 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ จะมีการโอนเงินไปให้กับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสำหรับใช้ลงทุนในโครงการระบบสาธารณูปโภค ซึ่งเบื้องต้นจะโอนในส่วนของการจัดเก็บในอัตรา 50 สตางค์ต่อลิตร
สำหรับรายละเอียดของแผนการบริหารกองทุนฯ นั้นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(สนพ.) จะไปจัดทำแผนงานเสนอกลับมาให้กระทรวงพลังงานพิจารณาอีกครั้ง
สถานะของกองทุนฯ คาดว่า จะกลายเป็นบวกในต้นสัปดาห์ โดย ณ วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา กองทุนฯ ยังติดลบอยู่ประมาณ 400 ล้านบาท แต่จะมีเงินไหลเข้ามาประมาณวันละ 80-100 ล้านบาท
นายคุรุจิต กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังพิจารณาเรื่องการส่งเสริมให้มีการผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซล ตามมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งเดิมมีประกาศให้เริ่มทำตามมาตรฐานนี้ในวันที่ 1 ม.ค.55 แต่โรงกลั่นของ บมจ.ไทยออยล์(TOP) และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) สามารถผลิตน้ำมันตามมาตรฐานดังกล่าวได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ กระทรวงพลังงานพิจารณาเห็นว่าควรมีการชดเชยการลงทุนให้กับโรงกลั่นที่ผลิตได้ก่อนกำหนดในอัตราลิตรละ 20 สตางค์
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--