นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ยังคงขยายพอร์ตเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าธุรกิจ SME พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในบริการทางการเงิน เพื่อรองรับความต้องการสินเชื่อที่คาดว่าจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งการผสานความรู้ความเชี่ยวชาญในประเทศกับศักยภาพความแข็งแกร่งเครือข่ายระดับโลกของ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) โดยกรุงศรีมั่นใจสินเชื่อธุรกิจปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 6-8%
ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปี 2561 กรุงศรียังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจ (Trusted Banking Partner) สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และเป็นธนาคารหลักสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ด้วยการผสานพลังศักยภาพกับ MUFG เพื่อช่วยเอื้อให้การขยายสินเชื่อรายใหญ่ง่ายขึ้น การให้วงเงินสนับสนุนสินเชื่อลูกค้าไทยที่ลงทุนในต่างประเทศและลูกค้าต่างชาติที่ลงทุนในไทย รวมทั้งการจับคู่ธุรกิจและการร่วมทุนระหว่างธุรกิจญี่ปุ่นและไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
"ความต้องการสินเชื่อธุรกิจในกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ตามภาพรวมเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลังด้วยแรงขับเคลื่อนจากภาคส่งออก การท่องเที่ยวและการลงทุนของภาครัฐ เรามองว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและการท่องเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่มีการขยายกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเป็นตัวเร่งอัตราการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้และปีหน้า ขณะที่รัฐบาลยังคงมีมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน"นายพรสนองกล่าว
สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 สินเชื่อธุรกิจเติบโตมากกว่า 6% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องในปีนี้และมีสัญญาณเชิงบวกด้านคุณภาพสินทรัพย์ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของกลุ่มลูกค้าธุรกิจ เริ่มทรงตัวในทุกเซ็กเมนต์ และล่าสุด NPL ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.61% ในไตรมาส 2
ด้านนายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 กลุ่มธุรกิจ SME ขนาดกลางและขนาดเล็กของกรุงศรีมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยมีการเติบโตของสินเชื่อของ SME ขนาดกลาง (SME-M) และ SME ขนาดเล็ก (SME-S) ที่ระดับ 9.2% ตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่อง กรุงศรียังคงมุ่งใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของเครือข่าย MUFG รวมถึงการขยายสินเชื่อ Supply Chain เพื่อต่อยอดการให้บริการและขยายฐานลูกค้า ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้า SME กรุงศรี อยู่ที่ระดับ 3.8% ลดลงต่อเนื่องจากสิ้นปี 2560 โดยส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม SME ขนาดกลางและลูกค้า SME ขนาดเล็กเริ่มทรงตัว ทั้งนี้ ธนาคารยังมีมาตรการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และสินเชื่อตามนโยบายปกติ และมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยปิดความเสี่ยงด้วย
"ความเชี่ยวชาญของกรุงศรี และเครือข่ายที่ครอบคลุมของ MUFG ทำให้กรุงศรีพร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้า ผ่านการให้คำปรึกษาและความรู้ ในรูปแบบกิจกรรมสัมมนา กิจกรรมศึกษาดูงาน และการสร้างเครือข่ายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมกับบริการทางการเงินที่ครบวงจรของกรุงศรี จะช่วยให้ลูกค้าขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน"นายสยาม กล่าว