กรมการค้าต่างประเทศเผยผู้ส่งออกไทยยื่นขอใช้สิทธิภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น(JTEPA) หลังมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้วกว่า 7,000 ฉบับ หรือคิดเป็นมูลค่า 10,600 ล้านบาท โดยสินค้าที่ขอใช้สิทธิค่อนข้างมาก ได้แก่ กุ้งแปรรูป สิ่งทอ และแป้งมันสำปะหลังแปรรูป
"ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อการใช้สิทธิลดภาษีภายใต้ JTEPA ไปแล้วกว่า 7,000 ฉบับ หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 323 ล้านเหรียญสหรัฐ(มูลค่าประมาณ 10,600 ล้านบาท)" นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าว
ปัจจุบันสินค้าที่ญี่ปุ่นให้โควตาส่งออกแก่ไทยโดยเก็บภาษีในอัตรา 0% ได้แก่ โควตากล้วย 1,667 ตัน โควตาสับปะรดสด 42 ตัน และโควตาภาษีสำหรับเนื้อหมูแปรรูป 500 ตัน(จาก 20% ลดเหลือ 16%) ปรากฏว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองโควตาภาษีส่งออกสำหรับสินค้ากล้วยและเนื้อหมูแปรรูปไปทั้งสิ้น 117.5 ตัน และ 8.5 ตันตามลำดับ ส่วนสินค้าสับปะรดยังไม่มีผู้มาขอใช้โควตา
สินค้าเกษตรที่ไทยผูกพันโควตานำเข้าไว้กับ WTO รวม 21 รายการ ซึ่งไทยได้ตกลงลดภาษีลงเหลือ 0% ได้แก่ น้ำนมดิบและนมพร้อมดื่ม มะพร้าว ถั่วเหลือง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้มายื่นขอโควตานำเข้าเช่นกัน
สำหรับสินค้าเหล็ก 3 กลุ่มที่ไทยให้โควตานำเข้าเป็นการเฉพาะแก่ญี่ปุ่น คือ เหล็กรีดร้อน เหล็กรีดร้อนสำหรับรีดเย็น และเหล็กรีดร้อนสำหรับรีดเย็นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์นั้น กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าเหล็กแผ่นในกลุ่ม Q11 ปริมาณรวม 860 ตัน จากโควตา 47,000 ตัน ส่วนสินค้าเหล็กในกลุ่มอื่นยังไม่มีการขอโควตา
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--