นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานเพื่อส่งเสริมการค้าอย่างไร้อุปสรรคร่วมกับจีนว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อผลักดันให้เป้าหมายมูลค่าการค้า 2 ฝ่ายเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า หรือมีมูลค่า 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 64 จากปัจจุบันที่ 73,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐของจีน ได้ตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้
โดยที่ประชุมเห็นว่า แนวทางที่ควรจะร่วมกันดำเนินการเพื่อเพิ่มมูลการค้าระหว่างกัน ประกอบด้วย การเร่งขยายความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าผักผลไม้ อาหาร และสินค้าฮาลาล โดยไทยได้ขอให้จีนอำนวยความสะดวกสินค้าผัก และผลไม้ของไทยเข้าสู่ตลาดจีน เพิ่มเติมจากตลาดเมืองหลักในปัจจุบัน เช่น เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง กว่างโจว ให้ขยายไปเมืองใหม่ๆ มลฑลใหม่ๆ เช่น เฉิงตู ฉงชิง ซีอาน ซินเจียง ชิงต่าว เป็นต้น
นอกจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะส่งเสริมให้เอกชนไทยและจีนเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างกัน แก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน โดยไทยได้ขอให้จีนเร่งรัดเดินทางมาตรวจโรงงานข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ไทยได้ยื่นขอให้ตรวจสอบไว้ และยังเหลือค้างอยู่อีก 54 ราย จากที่จีนได้ตรวจขึ้นทะเบียนให้ไทยแล้ว 49 โรงงาน เพื่อให้โรงสีข้าวไทยที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน และผ่านการตรวจสอบ มีโอกาสส่งออกไปจีนได้
ขณะเดียวกัน ไทยขอให้จีนอนุญาตให้นำเข้ารังนกแดงจากไทย ซึ่งกรมปศุสัตว์ของไทยได้ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยต่อการบริโภค เพิ่มเติมจากที่จีนให้นำเข้ารังนกขาวจากไทย อีกทั้งยังได้หารือเพื่อหาแนวทางป้องกัน ไม่ให้มีการนำชื่อสามัญไปจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยไทยได้ยกตัวอย่างกรณีมีผู้ประกอบการจีนนำชื่อหมอนทอง ซึ่งเป็นชื่อสามัญ ไปจดเครื่องหมายการค้าในจีน และไทยได้ขอให้จีนไม่รับจดชื่อดังกล่าวเป็นเครื่องหมายการค้า เพื่อปฏิบัติตามหลักการสากลของการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาโลก รวมถึงไทยยังได้ขอให้จีนเร่งรัดพิจารณาขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย 3 รายการ คือ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง มะขามหวานเพชรบูรณ์ และข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ได้ยื่นขอไว้แล้วด้วย
ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยเป็นทั้งตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าอันดับ 1 ในขณะที่ไทยเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 15 และเป็นตลาดนำเข้าลำดับที่ 10 ของจีน ในปี 60 การค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่ารวม 73,670.43 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 11.9% จากปี 59 ส่วนในช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 61 การค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่า 39,395.63 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 12.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน