นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการ การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ยสท.ได้ข้อสรุปแนวทางการรับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่แล้ว โดยจะอยู่ที่ 50% จากที่เคยซื้อในปีที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงการคลังแจ้งอย่างไม่เป็นทางให้ ยสท. รับทราบว่าจะขยายเวลาการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ตามราคาจาก 20% เป็น 40% ในวันที่ 1 ต.ค.62 ออกไปอีก 2 ปี เป็นวันที่ 1 ต.ค.64 ทำให้ ยสท.มียอดขายบุหรี่มากพอที่จะรับซื้อใบยาจากผู้ปลูกชาวไร่ได้
"เดิมหากไม่มีการขยายเวลาการขึ้นอัตราภาษีบุหรี่ ยสท.มีใบยาในสต็อกที่ผลิตได้ถึงปี 2566 โดยที่ไม่ต้องรับซื้อเพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมาในการประชุมเร่งเบิกจ่ายงบประมาณลงทุน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ก็ได้แจ้งให้ทราบว่าจะช่วยโดยการขยายเวลาการขึ้นภาษีบุหรี่ให้อีก 2 ปี ส่วนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อไหร่ ทาง ยสท.ไม่ทราบ แต่การขยายเวลาทำให้ ยสท.รับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ได้แม้ว่าจะไม่ได้มากเท่าเดิมก็ตาม" นางสาวดาวน้อย กล่าว
นอกจากนี้ ยสท.จะหาทางช่วยชาวไร่ปลูกยาสูบเพิ่มขึ้น โดยการสนับสนุนให้ปลูกพืชอื่นทดแทน เบื้องต้นคาดว่าจะสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกกัญชงและกัญชา หากพืชทั้ง 2 ชนิดนี้ได้รับการปลดออกจากพืชควบคุมตามกฎหมาย คาดว่ากัญชงจะถูกถอดออกจากพืชควบคุมก่อน
"ขณะนี้ ยสท.ได้หารือกับหลายประเทศที่มีการทำอุตสาหกรรมต่อยอดจากต้นกัญชงเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ซึ่งหาก ยสท.ต้องมาทำธุรกิจดังกล่าว ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกใบยาว่ามีผู้รับซื้อแน่นอน"
ส่วนกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขจะเก็บเงินสมทบจากบุหรี่ซองละ 2 บาท เพื่อเข้ากองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งทาง ยสท. ได้แจ้งกับทางกระทรวงสาธารณสุขว่าไม่มีกำลังเพียงพอ เพราะหลังจากปรับอัตราภาษีใหม่เมื่อ 16 ก.ย.60 ทำให้กำไรลดลงเหลืออยู่ 10 สตางค์ต่อซอง จาก 7 บาทต่อซอง และหากต้องส่งเงินให้กองทุนอีกจะทำให้ ยสท.ขาดทุน
"ปัจจุบันตลาดบุหรี่โดยรวมในประเทศไทยลดลงมาก ทำให้ส่วนแบ่งตลาด ยสท.จากเดิม 80% ลดเหลืออยู่ 60% ทำให้คาดว่าปีนี้จะมีกำไรประมาณ 200-300 ล้านบาท จากเดิมที่กำไรปีละ 7-9 พันล้านบาท ส่วนปีนี้จากการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการมากขึ้นก็ทำให้เชื่อว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 61% ได้" นางสาวดาวน้อย กล่าว
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การขยายเวลาการเพิ่มอัตราภาษีบุหรี่เป็น 40% ออกไปอีก 2 ปี ยังมีเวลาพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ครบถ้วน โดยต้องอยู่บนหลักสากลและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกราย อย่างไรก็ตามในส่วนของภาษียาเส้นจะมีการพิจารณาปรับขึ้น เนื่องจากหลังจากปรับเพิ่มภาษีบุหรี่ทำให้คนหันไปสูบยาเส้นมากขึ้น และมีผู้ประกอบการจำนวนมากเข้าทำตลาดยาเส้น อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นภาษียาเส้นก็จะต้องไม่กระทบกับยาเส้นที่ปลูกโดยเกษตรกรภายในประเทศ จะเป็นการปรับขึ้นของยาเส้นในส่วนอื่น ๆ ที่มีการนำเข้ามาจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น
สำหรับการเก็บเงินสมทบให้กองทุนหลักประกันสุขภาพนั้น ต้องไปพิจารณาว่าภายใต้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 สามารถทำได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ยืนยันว่าการเก็บเงินสมทบให้หน่วยงานต่างๆ มีแค่ 4 กองทุนเท่านั้น คือ กองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (กกท.) กองทุนผู้สูงอายุ และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเท่านั้น