นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งแก่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจในระดับท้องถิ่นที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ รวมถึงสามารถใช้เป็นดัชนีชี้วัดการจับจ่ายใช้สอยของคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าวางแนวทางการพัฒนาร้านค้าทั้งในส่วนของการปรับภาพลักษณ์และการบริหารจัดการร้านค้าให้เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เพื่อให้เป็นธุรกิจที่อยู่คู่ชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ในระยะยาว
โดยล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้จับมือกับ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทยเทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พีแอนด์จี ลงพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อปรับภาพลักษณ์ให้แก่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านโชวห่วย โดยให้ทุกร้านมีครบองค์ประกอบ 5 ส ได้แก่ สวย สว่าง สะอาด สะดวก สบาย พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำการบริหารจัดการร้านค้าแบบง่ายๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ดึงดูดลูกค้า และเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้า เบื้องต้นได้ร่วมกันปรับภาพลักษณ์ร้านค้าไปแล้วกว่า 1,000 ร้านค้า โดยในเฟสแรกนี้ได้ตั้งเป้าทำการปรับภาพลักษณ์ไว้จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 ร้านค้า
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวต่อว่า ธุรกิจค้าปลีกในท้องถิ่น หรือร้านโชวห่วย มีจุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ คือ มีความเข้าใจเรื่องความต้องการสินค้าของคนในท้องถิ่นเป็นอย่างดี ตลอดจนร้านค้าตั้งอยู่ในพื้นที่อยู่แล้วทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่เพื่อจับจ่ายใช้สอย อันจะเป็นการประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย และได้สินค้าที่เหมือนกับร้านค้าอื่นๆ นับเป็นการดีต่อการสร้างความสัมพันธ์กับฐานลูกค้าในท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันจุดอ่อนของร้านโชวห่วย คือ ร้านค้าไม่ค่อยเป็นระเบียบ ระบบการบริหารจัดการที่ยังไม่เป็นระบบเท่าที่ควร เช่น การบริหารสินค้าคงคลัง การสร้างความสมดุลระหว่างระบบการจัดซื้อและระบบการจำหน่ายสินค้า เป็นต้น
"ดังนั้น การปรับภาพลักษณ์ร้านค้าให้มีความสวย สว่าง สะอาด สะดวก สบาย และมีการวางรากฐานการบริหารกิจการอย่างเป็นระบบ จะทำให้ธุรกิจให้มีความทันสมัย มีระบบการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุนของกิจการ และเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจได้ในระยะยาว" นางกุลณีกล่าว