ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลใหม่จะต้องดูแลภาคเศรษฐกิจด้วยการเร่งกระตุ้นการลงทุนในประเทศ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ เนื่องจาก 15 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้มีการลงทุนเพิ่มเติมเลย
ทั้งนี้ การลงทุนภาคเอกชนมีความสำคัญ เพราะช่วยชดเชยการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงในปีหน้า โดยในช่วง 2 เดือน
ที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการลงทุนแล้ว แต่ยังไม่เต็มที่ ดังนั้น สิ่งสำคัญก็คือนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ต้องกล้าตัดสินใจเร่งเดินหน้า
อดีตรมว.คลัง กล่าวว่า หากรัฐบาลชุดใหม่กล้าตัดสินใจ เศรษฐกิจไทยในปี 51 ก็มีโอกาสเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ที่ 4.5-5.0% เพราะมีการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และโครงการอุตสาหกรรมปิโตรเคมี 11 โครงการรออยู่
นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องดูแลราคาพืชผลทางการเกษตรไม่ให้ราคาตก เพราะภาคการเกษตรมีสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นเดียวกับภาคการส่งออกและการลงทุน ซึ่งทั้งหมดเป็นการบ้านที่รัฐบาลชุดใหม่จะต้องพิสูจน์ว่าจะขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจในอนาคตอย่างไร
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวว่า ถึงแม้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเป็นรัฐบาลผสมค่อนข้างแน่นอนแล้ว แต่ในด้านเสถียรภาพไม่น่ากังวล เพราะขึ้นกับภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีคนใหม่
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--