นายแบงก์ คาดนักลงทุนจับตาการเมืองช่วง 3 เดือนเปลี่ยนรัฐบาลก่อนตัดสินใจ

          นายระเฑียร ศรีมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)กล่าวว่า ปัญหาตอนนี้ยังเป็นห่วงเรื่องไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็เชื่อว่านักลงทุนก็ต้องรอสถานการณ์อย่างน้อย 3 เดือน
          หากพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วภายใน 3 เดือนไม่เกิดปัญหารุนแรงจนถึงจุดพลิกผัน ก็เชื่อว่านักลงทุนก็จะกลับเข้ามาลงทุน แต่ระหว่าง 3 เดือนนี้คงต้องรอดูก่อน แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะมีปัญหาเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาลในแง่ที่ว่าหากพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เข้าร่วมเกิดเปลี่ยนขั้วก็จะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลมีปัญหา 
          อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพรรคอะไรจะเป็นแกนนำอย่างน้อยก็มีภาพของประชาธิปไตยกลับมาเป็นสิ่งที่ดี
          นายระเทียร กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าแม้จะเป็นปีที่มีรัฐบาลใหม่เข้ามา แต่อาจจะยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าที่เป็นอยู่ อาจจะเห็นเพียงการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่จะมีผลช่วยผลักดันเศรษฐกิจบ้าง แต่สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจนจริง ๆ น่าจะเป็นการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเนื้อหาหลายจุดที่นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
          "เชื่อว่าปีหน้าเศรษฐกิจคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจาก 2 พรรคมีสัดส่วนใกล้เคียงกันเชื่อว่าเศรษฐกิจจะไม่ได้รับผลกระทบจากรัฐบาลผสม และคงไม่เห็นอะไรที่ชัดเจนนักสำหรับเศรษฐกิจในปีหน้า แต่ที่เห็นเป็นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า" นายระเฑียร กล่าว
          นายระเฑียร กล่าวต่อไปถึงภาพเศรษฐกิจไทยภายหลังการเลือกตั้งว่า ภาคการส่งออกยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากการผลิตและส่งออกของไทยในปัจจุบันเป็นลักษณะของ technology based ในขณะที่ในส่วนของ labor based (ผ่านการใช้แรงงาน)เริ่มลดลง เห็นได้จากการส่งเสริมโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานเพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่น ในลักษณะโครงการลงทุนครบวงจร
          แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลง เพราะปัญหาซับไพร์มที่ยังมีผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อังกฤษราคาอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มมีการขยายตัวที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ผลที่จะมีถึงการส่งออกของไทยไม่น่าจะมีมากนัก เนื่องจากประเทศไทยหันไปทำการค้ากับกลุ่มอาเซียน เช่น จีน และญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น   
          อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญปีหน้าคือเงินเฟ้อ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนผู้ผลิตเพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อเนื่องถึงราคาสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน