นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)คาดว่า ในปี 51 อัตราเงิเนฟ้อทั่วไปของไทยจะเร่งตัวขึ้น เป็น 4% เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นหลัก ในขณะที่ผลกระทบของการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและรัฐวิสาหกิจในเดือนต.ค.50 ไม่สร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเท่าใดนัก
ทั้งนี้ สศค.มองว่าปีหน้าราคาน้ำมันยังมีความผันผวนต่อไป เพราะยังมีการเก็งกำไรในตลาดน้ำมัน รวมทั้งขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศในแถบตะวันออกกลางด้วย แต่ก็เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะยังไม่เกิน 80-85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานทั้ง demand และ supply
พร้อมเชื่อว่าราคาน้ำมันมีโอกาสจะปรับตัวลดลงได้ เนื่องจากได้ผ่านช่วงฤดูหนาวไปแล้วความต้องการใช้น้ำมันจะเริ่มลดลง
นางพรรณี กล่าวด้วยว่า อีกปัจจัยที่จะมีผลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อในปีหน้าคือ ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ยังคงปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรของไทยล่าสุดปรับสูงขึ้นถึง 15% โดยส่วนใหญ่เป็นพืชพลังงาน เช่น มันสำปะหลัง และพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา เนื่องจากมีความต้องการในตลาดอยู่มาก
ดังนั้น เมื่อราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นจะมีผลช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ภาคเกษตรเพิ่มขึ้นตาม รวมทั้งจะมีผลทางอ้อมต่อการบริโภคในภาคเกษตรที่ขยายตัวตาม และสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้สูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--