นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้นำคณะผู้แทนสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ผู้เชี่ยวชาญการใช้มันสำปะหลังในสูตรอาหารสัตว์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน รวมถึงสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ จำนวนรวม 18 ท่าน เดินทางเยือนประเทศนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 26-30 สิงหาคม 2561 เพื่อเจรจาขยายตลาดมันสำปะหลังในประเทศนิวซีแลนด์ ผลักดันให้นิวซีแลนด์นำเข้ามันสำปะหลังอัดเม็ดเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้เพิ่มขึ้น
การเดินทางในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย ได้มีโอกาสพบปะหารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ของนิวซีแลนด์ (The New Zealand Feed Manufacturers Association (NZFMA) และผู้นำเข้ามันสำปะหลังรายใหญ่ (ADM New Zealand Ltd) ซึ่งผลการหารือเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์นิวซีแลนด์ และผู้นำเข้ามันสำปะหลังรายสำคัญของนิวซีแลนด์ ได้ให้ข้อมูลว่าประเทศนิวซีแลนด์นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์หลักๆ ได้แก่ ข้าวสาลี (Wheat) จากประเทศออสเตรเลีย โดยมีการนำเข้าปริมาณ 250,000 - 300,000 ตัน/ปี กากเนื้อในเมล็ดปาล์ม (Palm Kernel) จากประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ปริมาณ 2.2 - 2.5 ล้านตัน/ปี ส่วนมันสำปะหลังนำเข้าจากประเทศไทยเป็นหลักแต่ยังมีปริมาณไม่มากนัก เนื่องจากเกษตรกรนิวซีแลนด์ยังไม่มีความคุ้นเคยกับมันสำปะหลัง
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของนิวซีแลนด์มีแนวโน้มที่จะขยายกำลังการผลิตให้สูงขึ้น ประกอบกับมีกระแสต่อต้านการใช้พืชน้ำมันที่ส่งผลให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า เพราะการปลูกปาล์มน้ำมันในเชิงอุตสาหกรรมส่งผลให้เกิดการบุกรุกทำลายป่าอย่างกว้างขวาง จึงเป็นโอกาสดีสำหรับมันสำปะหลังของไทย ที่จะถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันสูตรอาหารในการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรนิวซีแลนด์จะใช้ กากปาล์ม 2-3 กก. ผสมกับกากมันสำปะหลังอัดเม็ด 1-2 กก.
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารสัตว์ของฝ่ายไทย ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการใช้มันสำปะหลังในสูตรอาหารโค โดยจะช่วยทำให้โคนมผลิตน้ำนมได้มากขึ้น อีกทั้งยังจะได้คุณภาพน้ำนมที่ดียิ่งขึ้น การประชุมในครั้งนี้จึงได้สร้างความรับรู้และความเข้าใจในการใช้มันสำปะหลังให้แก่ผู้นำเข้าอาหารสัตว์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้นำเข้า ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง และมีความตั้งใจที่จะใช้มันสำปะหลังเพิ่มขึ้น" นายอดุลย์ฯ กล่าว
"ประเทศนิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการนำเข้ามันสำปะหลังสูงมาก ด้วยจำนวนประชากรโคนม มากกว่า 5 ล้านตัว โดยผู้ผลิตอาหารสัตว์นิวซีแลนด์ สามารถนำมันสำปะหลังอัดเม็ด (Tapioca pellet) และกากมันสำปะหลังอัดเม็ด (Tapioca Residual Pellet) มาใช้เป็นส่วนผสมทดแทนกากเนื้อในเมล็ดปาล์ม (Palm Kernel) ได้ถึง 20-25% ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถขยายตลาดมันสำปะหลัง ส่งออกมายังประเทศนิวซีแลนด์ได้เพิ่มขึ้นถึง 500,000 ตัน/ปี ดังนั้น ในระยะถัดไป กรมฯ จะได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงรายละเอียด Road map การจัดกิจกรรมขยายตลาดมันสำปะหลังในประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อผลักดันให้การส่งออกมันสำปะหลังไทยไปยังนิวซีแลนด์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพสูงที่สุด" นายอดุลย์ฯ กล่าว