นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์หลังราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเบื้องต้นผู้ประกอบการค้าน้ำมันจะให้ความร่วมมือรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมัน โดยปรับลดค่าการตลาดลงอยู่ในระดับต่ำ ที่ 1.26 บาท/ลิตร สำหรับน้ำมันดีเซล และเพื่อให้สามารถรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตร พร้อมทั้งเตรียมใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ในอัตราไม่เกิน 0.30 บาท/ลิตร
ส่วนการดูแลราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ให้อยู่ในระดับราคาขายปลีก 363 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม (กก.) นั้น โดยให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชี LPG ติดลบได้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท จากเดิมติดลบไม่เกิน 3,000 ล้านบาท
นายศิริ กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ถึงระดับ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ประกอบค่าเงินบาทอ่อนตัวลงอยู่ในระดับ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ ได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่มีแนวโน้มสูงมากถึงระดับ 30 บาท/ลิตร
กระทรวงพลังงาน ได้มีการเตรียมพร้อมรองรับไม่ให้การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดีเซลอย่างมากนี้ กระทบต่อค่าขนส่งสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน ด้วยการจัดให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ให้แก่กลุ่มรถบรรทุกสินค้า และรถโดยสารสาธารณะ ในราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลเกรดทั่วไป ในอัตรา 3 บาท/ลิตร ซึ่งในสถานการณ์ที่คาดว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูง ประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อีกระยะหนึ่ง กระทรวงพลังงานจึงได้จัดให้กรมธุรกิจพลังงานทำโครงการเผยแพร่และให้คำแนะนำผู้ประกอบการกลุ่มรถบรรทุกสินค้า และรถโดยสารสาธารณะ ที่ยังไม่ได้ใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ในการปรับสภาพและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้พร้อมเติมน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 โดยติดต่อได้ที่ กรมธุรกิจพลังงาน โทร 0 2794 4011
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการค้าน้ำมันได้ให้ความร่วมมือในการรักษาระดับราคาขายปลีกไม่ให้สูงโดยได้ปรับลดในส่วนของค่าการตลาด ลงอยู่ในระดับต่ำ ที่ 1.26 บาท/ลิตร สำหรับน้ำมันดีเซล และเพื่อให้สามารถรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ในกรณีที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกระดับไม่เกิน 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล กบง. จึงมีมติกำหนดวงเงินการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ในอัตราไม่เกิน 0.30 บาท/ลิตร โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ประกาศอัตราชดเชยตามความเหมาะสม
ส่วนการรักษาเสถียรภาพราคา LPG ณ ปัจจุบันราคา LPG ในตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับราคาสูง (CP = 617.50 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน) และกระทรวงพลังงานได้มีนโยบายรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีก LPG ในประเทศที่ 363 บาท/ถัง 15 กก. ทำให้มีการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ชดเชยราคาที่ระดับ 6.48 บาท/กก. ส่งผลให้กองทุนฯ มีเงินไหลออกสุทธิ 804 ล้านบาท/เดือน
กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 2 กันยายน 2561 มีฐานะสุทธิ 26,022 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 29,359 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG –3,337 ล้านบาท
กบง. จึงเห็นชอบใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีก LPG ในประเทศที่ 363 บาท/ถัง 15 กก. โดยให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชี LPG ติดลบได้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท และมอบหมายให้สถาบันบริการกองทุนพลังงาน (สบพน.) จัดทำรายงาน รายรับ/รายจ่าย และฐานะกองทุนน้ำมันฯ ของบัญชี LPG เพื่อรายงาน กบง. ทราบทุกเดือน และเห็นชอบปรับสูตรราคาอ้างอิงในการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ให้สะท้อนสถาพความเป็นจริงมากขึ้น โดยให้ตัดในส่วนของค่าคลังนำเข้า (Depot) 20 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ในการคำนวณสูตรราคาอ้างอิง