น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวในงานสัมมนาและภาพรวมโครงการงานสัมมนา CLMVT Sister Cities: จากเมืองคู่มิตรสู่หุ้นส่วนเศรษฐกิจยุคใหม่ว่า โครงการ Strategic Partnership for Sister Cities เป็น Pilot Study ที่ศึกษาแนวทางการเชื่อมโยงห่วงโซ่มูลค่าระหว่างจังหวัดของไทยและเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมกันพัฒนาความสามารถในการแข่งขันตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยได้ทดลองนำร่องกับ 4 กลุ่มสินค้าที่สามารถเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านได้ (Sister Clusters) ใน 4 กลุ่มจังหวัดชายแดน ได้แก่ ผลไม้แปรรูป (ภาคตะวันออก 2 – จ.ไพลิน) ผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ภาคเหนือตอนบน 2 – รัฐฉาน) อาหารทะเลแปรรูป (ภาคกลางตอนล่าง 2 – จ.มะริด) และ โคเนื้อ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 – แขวงสะหวันนะเขต)
ผลลัพธ์ของโครงการดังกล่าว ได้นำไปสู่การจับคู่ธุรกิจเพื่อผลิตสินค้าร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการของไทยและเพื่อนบ้าน อาทิ ผลิตภัณฑ์ผลไม้สองแผ่นดิน ซึ่งเป็น value chain ระหว่างโรงงานและธุรกิจล้งใน จ.จันทบุรี กับเครือข่ายเกษตรกรใน จ.ไพลินของกัมพูชา เป็นการนำจุดเด่นของสองประเทศมาเสริมกันและสร้างแบรนด์ให้ อนุภูมิภาคนี้ กลายเป็นศูนย์กลางผลไม้ของโลก ในอนาคต มหาวิทยาลัยบูรพาและวิสาหกิจเพื่อสังคมในพื้นที่จะสานต่อความร่วมมือและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายโอกาสไปสู่ตลาดต่างประเทศ
"ในอนาคตจังหวัดต่างๆ ใน CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) ต้องร่วมกันวางยุทธศาสตร์รองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ ภายใต้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเทคโนโลยีชีวภาพ ที่จะเป็นโอกาสของเกษตรกร ที่จะยกระดับรายได้ หากสามารถปรับตัวไปพร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ผู้ผลิตรายย่อยในห่วงโซ่ได้เกาะเกี่ยวไปสู่ตลาดด้วย ส่งผลให้มีการบริโภคสินค้าและบริการของไทยเองในที่สุด ซึ่งผลการศึกษาและกรอบความร่วมมือที่ได้จากโครงการนี้สามารถนำไปปรับใช้เป็นแนวทางให้จังหวัดชายแดนอื่นๆ ต่อไปได้ด้วย" น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า LMVT เป็นเศรษฐกิจผืนเดียวกันที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจอย่างยิ่งในภูมิภาคนี้ กระทรวงพาณิชย์จึงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์และยกระดับการค้าระหว่างไทยและ CLMV ให้มากขึ้น โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็จัดงาน CLMVT Forum 2018 ขึ้น และเล็งเห็นว่าควรส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงเป็น value chain และต่อยอดไปสู่ตลาดโลกให้ได้ ซึ่งต้องอาศัยการวางแผนเชิงพื้นที่ (Area-based & Joint Strategy) ร่วมกันระหว่างกลุ่มจังหวัดชายแดน โดยบ่งชี้กลุ่มสินค้าหรือคลัสเตอร์ที่สามารถนำศักยภาพมาเกื้อกูลกัน รวมทั้งกำหนดบทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดห่วงโซ่การผลิตและพันธมิตรการค้าไปสู่ตลาดเป้าหมาย(Local Link – Global Reach) ซึ่งโครงการนี้ได้มุ่งเน้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรซึ่งไทยมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและมาตรฐานต่างๆ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถเอื้อประโยชน์ให้เกษตรกรรายย่อยทั้งในจังหวัดของไทยและในฝั่งเพื่อนบ้านได้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตสินค้าด้วย เพื่อเศรษฐกิจท้องถิ่นที่เติบโตไปด้วยกัน