นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.84 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.85 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อคืนมีข่าวดีทางฝั่งยูโรและปอนด์ คือตลาดตราสารหนี้ของอิตาลีปรับตัวดีขึ้นหลังคลายกังวลเรื่องหนี้ของอิตาลี ประกอบกับปัจจัยหนุนจากความหวังว่าอังกฤษจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการแยกตัวออกจาก EU (Brexit) ภายใน 6-8 สัปดาห์นี้ส่งผลให้ยูโรและปอนด์ปรับขึ้นมาบ้าง"นักบริหารเงิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนต่อไป
นักบริหารเงิน คาดว่า ประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ระหว่าง 32.80-32.90 บาท/ ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (10 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.28953% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.44181%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.39 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 111.10 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1581 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1572 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8560 บาท/
ดอลลาร์
- นักวิเคราะห์เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ของบริษัท โนมูระ โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า ไทยเป็น 1 ใน 8 ชาติที่เผชิญความ
เสี่ยงต่ำที่สุดจากวิกฤตค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ ร่วมกับบราซิล บัลแกเรีย อินโดนีเซีย คาซัคสถาน เปรู ฟิลิปปินส์ และรัสเซีย
- สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง รูปีอินเดีย ร่วงทำนิวโลว์ ที่ 72.31 รูปีต่อดอลลาร์ เป็นครั้งแรก ด้านเป
โซ ฟิลิปปินส์อ่อนค่ากว่า 2% ด้านนักวิเคราะห์เตือน วิกฤติค่าเงินตลาดเกิดใหม่หนุนภาระหนี้ต่างประเทศของชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่
ทะยาน เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูง ด้าน "เครดิตสวิส" ชี้เงินบาทมีเสถียรภาพดี
- สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียร่วงลงแตะแนว 70 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2559 ในการ
ซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรามอสโกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่จากสหรัฐ
- สกุลเงินปอนด์และยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้
(10 ก.ย.) ขานรับความหวังที่ว่า อังกฤษจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการแยกตัวออกจาก EU
(Brexit) ภายใน 6-8 สัปดาห์นี้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขจ้าง
งานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น อย่างไรก็
ตาม สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนทองคำในระหว่างวัน
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค., ดัชนี
ราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับ
สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิต
ภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัย
มิชิแกน
- ทั่วโลกกำลังจับตาท่าทีของปธน.ทรัมป์ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อใด หลังจากผ่านพ้น
กำหนดเส้นตายในวันที่ 6 ก.ย. สำหรับการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐต่อมาตรการดังกล่าว