นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการประชุม ICAO – EASA Forum on Civil Aviation in South East Asia ว่า ในการประชุมครั้งนี้มีการเจรจาระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และกลุ่มประเทศอาเซียนที่ EU จะเข้ามาทำตลาดการบินร่วมในอาเซียน ลักษณะ Block to Block เนื่องจากอัตราการเติบโตของการเดินทางทางอากาศในเอเชียแปซิฟิคเติบโตมากถึง 5.8% โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนมีอัตราการเติบโตมากที่สุดในช่วง 20 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ไทยได้เตรียมรองรับการเติบโตดังกล่าวด้วยการลงทุนขยายสนามบินใหม่ ได้แก่ สนามบินอู่ตะเภา ที่ปัจจุบันรองรับได้ 3 แสนคน/ปี จะเพิ่มเป็น 3 ล้านคน/ปี โดยในช่วง 10 ปีแรกจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านคน/ปี จากนั้นในช่วง 10 ปีถัดไป จะเพิ่มเป็น 60 ล้านคน/ปี ซึ่งสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะมีการเชื่อมต่อ 3 สนามบินที่จะเป็นโอกาสของไทย ทั้งนี้ในอีก 20 ปีข้างหน้า ทั้ง 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา) จะสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้ 190-200 ล้านคน/ปี
นอกจากนี้ จากปริมาณการเดินทางทางอากาศมากขึ้น จะมีการบริหารจัดการจราจรห้วงอากาศ เพราะมีเที่ยวบินมาก การจัดการจราจรเป็นเรื่องสำคัญ โดยวิทยุการบินจะขอใช้ห้วงอากาศกับทางกองทัพ เพื่อรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการติดตั้งเทคโนโลยีในการจัดการจราจรทางอากาศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จในปี 62 ขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญเรื่อง Cyber Security รวมทั้งพิจารณาบทบาทของ "โดรน" หรืออากาศยานไร้คนขับที่อนาคตจะมีการนำมาใช้มากขึ้น เพราะเห็นว่ามีทั้งโอกาสและความเสี่ยง
ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งยุโรป (EASA) กำลังเจรจาทำการบินเสรีกับอาเซียน ซึ่ง EASA ต้องการให้การเจรจาเสร็จสิ้นภายในปีนี้ ทั้งนี้ หากเจรจาสำเร็จ ประเทศในกลุ่ม EU ทั้ง 28 ประเทศจะสามารถทำการบินเสรีในอาเซียน เช่นเดียวกับที่อาเซียนจะเข้าทำการบินใน 28 ประเทศในกลุ่ม EU ได้
ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 20 ปีข้างหน้า เอเชียแปซิฟิคจะมีปริมาณการเดินทางทางอากาศเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.8% ขณะที่ไทยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8% โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เส้นทางในประเทศเติบโต 12% และเส้นทางระหว่างประเทศโต 10%
"ในเอเชียแปซิฟิค ดูแล้วอาเซียนเติบโตเร็วสุด EASA เขาเห็นการเติบโตจึงอยากเข้ามา เขาอยากเจรจาให้เสร็จในปีนี้ เพราะคุยกันมา 2 ปีแล้ว" นายจุฬากล่าว
ส่วนการปลดล็อคทางการบินระหว่างประเทศกับสหรัฐฯ นั้น ผู้อำนวยการ กพท. กล่าวว่า ไทยอยู่ระหว่างให้องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) นัดเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัย คาดว่าจะเข้ามาได้ประมาณเดือนต.ค.นี้ ซึ่งทาง FAA ตรวจสอบเอกสารที่ทางไทยส่งไป โดยก่อนหน้านี้ FAA ปรับลดมาตรฐานจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 หากปลดล็อกสู่มาตรฐานในระดับ 1 และทำให้สายการบินของไทยสามารถเปิดเส้นทางบินไปสหรัฐฯ ได้เช่นเดิม