ดอลล์ผันผวนที่ตลาดออสซี่ หลังข้อมูลศก.ซบเซาถ่วงดอลล์อ่อนเมื่อคืนนี้

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (27 ธ.ค.) หลังจากที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์สเตอริงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขในตลาดอสังหาริมทรัพย์และยอดค้าปลีกที่อ่อนแอเกินคาดในสหรัฐ
          โดยราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวลดลง 6.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งนับเป็นสถิติที่ทรุดตัวลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และเป็นตัวเลขที่ร่วงลงหนักสุดตั้งแต่ต้นปี 2534 ขณะที่ยอดขายสินค้าในร้านค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 2.8% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 22 ธ.ค. ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ซบเซาในเดือนธ.ค.
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 05.45 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 114.26 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากปิดที่ระดับ 114.33 เยนต่อดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนต้องการทำธุรกรรม carry trade ในเงินสกุลเยนมากขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งค่าเงินเยน อย่างไรก็ตามภาวะดังกล่าวถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังต้องการเข้าเสี่ยงที่จะลงทุนในตลาดในช่วงอีกไม่กี่วันที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาซบเซาก็ตาม       
          ด้านเงินยูโรซื้อขายกันที่ 1.4484 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้น 1.4490 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อคืนนี้ ขณะที่เงินปอนด์สเตอริงเทรดกันที่ 1.9831 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หลังจากที่แข็งค่าขึ้น 1.9843 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          สำหรับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ 87.40 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากปิดที่ระดับ 87.35 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้
          นายจอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากทอมสัน ไอเอฟอาร์กล่าวว่า "บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นที่ซบเซาจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้นักลงทุนหลั่งไหลเข้าทำธุรกรรม carry trade กันมากขึ้น ซึ่งหากภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยังเคลื่อนไหวในระดับนี้อย่างต่อเนื่อง เราก็อาจได้เห็นค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆ เนื่องจากเงินดอลลาร์ออสเตรเลียได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น"