นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดใหญ่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ(MOU) เพื่อให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กรมฯ กำหนดขึ้น ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายค้าปลีกส่ง เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ระหว่างผู้รายใหญ่และโชห่วย ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทำการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรม
"ให้เวลา 2 ฝ่ายไปหารือและตกลงกันให้ได้ใน 2 สัปดาห์ คาดว่าต้นปี 51 น่าจะลงนามร่วมกันได้ เพราะหลักเกณฑ์ที่นำมาใช้ ประเทศต่างๆ ปฏิบัติกันอยู่แล้ว จึงน่าจะยอมรับกันได้ และลดความกดดันที่กระทรวงจะเร่งรัดผลักดันกฎหมายค้าปลีกอีก แต่หากไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็จะใช้กฎหมายที่มีอยู่ดำเนินการทันที" นายยรรยง กล่าว
สำหรับหลักเกณฑ์ที่เสนอได้กำหนดไว้ 4 รูปแบบ คือ ห้างค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ รูปแบบแรก ไฮเปอร์มาร์เก็ต ดิสเคาน์สโตร์ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และแคช แอนด์ แคร์รี่ ต้องห่างจากเขตเทศบาลไม่น้อยกว่า 12 กิโลเมตร และมีประชากรไม่น้อยกว่า 100,000 คนต่อ 1 แห่ง เวลาเปิด-ปิด ไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน
รูปแบบที่ 2 ร้านสรรพาหาร เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต อยู่ห่างเขตเทศบาลไม่น้อยกว่า 5 กิโลเมตร มีประชากรไม่น้อยกว่า 50,000 คนต่อ 1 แห่ง เวลาเปิด-ปิด ไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน รูปแบบที่ 3 ร้านสะดวกซื้อที่ขายสินค้าลดราคาได้แก่ ดิสเคาน์คอนวีเนี่ยนสโตร์ เช่น เอ็กซ์เพรส ห่างตลาดสดไม่น้อยกว่า 500 เมตร มีประชากรไม่น้อยกว่า 10,000 คนต่อ 1 แห่ง เวลาเปิด-ปิด ไม่เกิน 15 ชั่วโมงต่อวัน
รูปแบบที่ 4 ร้านสะดวกซื้อทั่วไป ได้แก่ คอนวีเนี่ยนสโตร์ ไม่กำหนดบริเวณที่ตั้ง แต่ต้องมีประชากรไม่น้อยกว่า 3,000 คนต่อ 1 แห่ง และไม่กำหนดระยะเวลาเปิด-ปิด ทั้งนี้ทั้ง 4 รูปแบบสามารถปรับปรุงเพื่อให้เกิดความเหมาะสมได้
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--