"มาสเตอร์การ์ด"เผยยอดค้าปลีกช่วงเทศกาลวันหยุดในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6%

          มาสเตอร์การ์ด แอ็ดไวเซอร์ส เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐช่วงเทศกาลวันหยุด ตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ถึงวันที่ 24 ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 
          SpendingPulse ซึ่งเป็นรายงานที่จัดทำขึ้นหลังจากข้อมูลยอดค้าปลีกระบุว่า ตัวเลขการจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าโดยรวมทุกประเภท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% โดยยอดขายเสื้อผ้าบุรุษเพิ่มขึ้น 2.3% และยอดขายรองเท้าเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งได้ชดเชยยอดขายเสื้อผ้าสตรีที่ลดลง 2.4%
          ยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิก เพิ่มขึ้น 2.7% ลดลงจากที่ได้เพิ่มขึ้น 15% ในช่วงวัน "Black Friday" ซึ่งเป็นมหกรรมลดราคาที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า และจากช่วงกลางเทศกาลที่เพิ่มขึ้น 5.8%
          โดยประเภทที่มียอดขายสูงสุดได้แก่ การซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ซึ่งขยายตัว 22.4% ขณะที่ยอดขายสินค้าประเทศของมีค่า ซึ่งไม่รวมเครื่องประดับอัญมณี เพิ่มขึ้น 7.1%
          "ผู้สังเกตการณ์อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดค้าปลีกลง แต่ผู้ที่กำลังมองหาโอกาสช่วงวันหยุดเทศกาลเพื่อเพิ่มยอดขายครั้งใหม่นั้น อาจพบว่าตัวเลขค้าปลีกดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์" ไมเคิล แม็คนามารา รองประธานฝ่ายวิจัยและวิเคราะห์ของมาสเตอร์การ์ด แอ็ดไวเซอร์ส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการมืออาชีพของมาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์กล่าว
          ทั้งนี้ แม็คนามารากล่าวว่า ราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น 30-35% เมื่อปีที่แล้วอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย ขณะที่สภาพอากาศที่เลวร้ายอาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ยอดขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน