นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 51 มีโอกาสขยายตัวได้ถึง 6% แต่ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ทุกด้านมีเสถียรภาพ ความเชื่อมั่นและความศรัทธาของประชาชนและนักลงทุนกลับคืนมา
สำหรับการเสนอนโยบายของกระทรวงการคลังต่อรัฐบาลชุดใหม่นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมเสนอแผนการทำงานไว้แล้ว โดยงานด้านการคลังนั้นจะเน้นดูแลการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ดูแลด้านเสถียรภาพ และการกระจายรายได้ ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังเป็นหลัก
"พื้นฐานเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่โตแค่ 4.5% แต่พื้นฐานเราโตได้ถึง 6% เป็นอย่างน้อย หากเราวางนโบายต่างๆ ให้เข้มข้นขึ้น เศรษฐกิจก็โตได้มากขึ้น แต่ทั้งหมดนั้น ทุกอย่างต้องนิ่ง มีความเชื่อมั่น และความศรัทธาของทุกคนกลับคืนมา แต่เชื่อว่า 5% ทำได้แน่นอน และเมื่อเศรษฐกิจโตได้ดี จะเป็นคำตอบได้ด้วยว่าจะทำให้เราจัดเก็บรายได้ตามเป้าหรือไม่" นายศุภรัตน์ กล่าว
นายศุภรัตน์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลใหม่สามารถจัดเพิ่มวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551 ได้เพิ่มเติม เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ดำเนินนโยบายตามที่ประกาศไว้ เนื่องจากปีงบประมาณ 2551 จัดทำงบประมาณแบบขาดดุล ร้อยละ 1.8 ของจีดีพี ซึ่งสามารถขยายกรอบการขาดดุล แต่ไม่ควรถึงร้อยละ 2.5 ของจีดีพี แต่ปัญหาสำคัญไม่ใช่เรื่องการเพิ่มงบประมาณ แต่เป็นเรื่องการใช้เงินงบประมาณมากกว่า ดังนั้นหากรัฐบาลใหม่จะเพิ่มงบประมาณรายจ่าย จึงพิจารณาให้รอบคอบว่าจะนำเงินลงทุนไปใช้ในโครงการใดให้ทันช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2551
"การทำงบกลางปี 2551 เพิ่ม ต้องดูว่าตั้งงบเพิ่มแล้วใช้เงินทันหรือไม่ เพราะถ้าปี 2551 เพิ่มงบลงทุน ก็ต้องดูว่าจะนำไปลงทุนอะไร เพื่อใช้เงินให้ทันครึ่งปีหลัง เพราะหากใช้ไม่ทัน ก็ไม่จำเป็นต้องทำงบกลางปี ดังนั้น เห็นว่า หากจะให้เม็ดเงินออกได้เร็ว ก็ต้องไปดูเรื่องการเพิ่มงบในโครงการเล็ก ๆ หรือโครงการที่ส่วนราชการพร้อมอยู่แล้ว หรืออาจจะต้องวางโครงการใหญ่ ๆ อาจใช้เงินบางส่วนไปก่อน เพื่อเป็นเชื้อต่อในปีงบประมาณหน้า" ปลัดคลังระบุ
สำหรับการจัดทำกรอบงบประมาณประจำปี 2552 เป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามาดำเนินการแทน เพราะรัฐบาลปัจจุบัน จะไม่วางกรอบการจัดทำงบประมาณปี 2552 แล้ว แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาไม่น่าจะเกิดปัญหา
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--