ธปท.คาดปี 51 แบงก์แข่งขันรุนแรงทั้งเงินฝาก-สินเชื่อ เตือนอย่าผ่อนกฎ

           นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในปี 51 จะเป็นปีที่ธนาคารพาณิชย์แข่งขันรุนแรงทั้งเงินฝากและสินเชื่อ โดยมองว่าสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบน่าจะขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้ที่ขยายตัว 2.5-2.6% ธปท.จึงเห็นว่าธนาคารพาณิชย์ไม่ควรผ่อนคลายระบบป้องกันความเสี่ยง 
          ธปท.มองว่าภาครัฐและเอกชนจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งชดเชยการส่งออกที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่สินเชื่อโครงการคงจะขยายตัวได้ดีในธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ส่วนธนาคารขนาดกลางและเล็กจะแข่งขันกันในด้านสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่อเพื่อการบริโภค 
          อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์จะต้องเสริมสร้างระบบความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และความเสี่ยงของธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี จะส่งผลให้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) เริ่มผ่อนคลายลง แต่ธนาคารพาณิชย์ก็ยังต้องระมัดระวัง ไม่ควรหย่อนมาตรฐาน เนื่องจากยังมีปัจจัยที่มีผลกระทบอยู่ อาทิ ปัญหาซับไพร์ม ราคาน้ำมัน ความผันผวน ความท้าทายของกรอบกติกาการเงินใหม่ๆ  
          นายบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า ในส่วนมาตรฐานหรือหลักเกณฑ์ต่างๆ ธปท.ยังคงยืนยันดำเนินการตามกำหนด ไม่มีการเลื่อนออกไป 
โดยในปี 51 งานด้านนี้จะขยายเกณฑ์ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านตลาด สภาพคล่อง และการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์  Basel II เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจ 
          ทั้งนี้ หากมีใช้เกณฑ์ Basel II ในสิ้นปี 51 ก็จะทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ลดลงเพียง 1.5% ซึ่งเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อความสามารถในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ โดยขณะนี้ธนาคารส่วนใหญ่ก็ได้ปรับตัวตามเกณฑ์ Basel II ไปแล้ว
          และธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบจะหมดภาระกันสำรองตามมาตรฐาน IAS39 ต่อจากนี้จะมีการกันสำรองตามคุณภาพสินเชื่อแต่ละธนาคาร และธปท.จะเริ่มใช้การตีมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์ต่างประเทศทั้งหมด  (mark to market) ที่สำคัญการปรับตัวเหล่านี้อยู่ในขอบเขตที่ธนาคารพาณิชย์จะทำได้ ธปท.จะไม่ให้การปรับตัวสร้างปัญหากับธนาคารพาณิชย์ 
          ส่วนในด้านเงินฝากนั้น ธปท.มองว่า การระดมเงินทุนของธนาคารพาณิชย์ในปีหน้าจะลำบากมากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น