นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้ทำการแทนผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวในงานสัมมนา เรื่อง "20 ปีสถาบันยานยนต์ กับทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์" ว่า สถาบันยานยนต์ได้มีการทบทวนวิสัยทัศน์ บทบาท ภารกิจใหม่ จากการเป็นองค์กรแห่งความรู้และความเชี่ยวชาญเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สู่วิสัยทัศน์ใหม่ ปี 2561 คือ องค์กรชั้นนำด้านการพัฒนาอุตสากรรมยานยนต์และชิ้นส่วนสู่อนาคตด้วยระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทันต่อยุคสมัย ด้วยพันธกิจหลักที่ได้กำหนดไว้คือ การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต และการเป็นศูนย์ข้อมูลและความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการก่อตั้งศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ หรือ Next Generation Automotive Research Center เพื่อศึกษาและวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมของยานยนต์ รวมทั้งความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรมอากาศยานและระบบราง เพื่อให้ผู้รับบริการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด
ทั้งนี้ ภารกิจเร่งด่วน 4 เรื่องหลักที่สถาบันฯ ให้ความสำคัญ คือ 1.การขยายศักยภาพทางเทคโนโลยีเครื่องมือการทดสอบสำหรับมาตรฐานยานยนต์อนาคต 2.การเตรียมความพร้อมของบุคลากรทดสอบของสถาบันฯ 3.การพัฒนาระบบงานมาตรฐานเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านเทคนิคในระดับสากล และ 4.การสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์ศูนย์ทดสอบยานยต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ที่ได้มีการจัดสร้างขึ้นเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยให้ได้อย่างต่อเนื่อง
"ท่ามกลางความท้าทายที่มาเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมโลก ทำให้อุตสาหกรรมยานยต์ไทยในทศวรรษหน้าจะต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Decade Of Change"นายอดิศักดิ์ กล่าว
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 6 ทศวรรษ อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยได้ผ่านวิกฤตการณ์ การแข่งขัน และเผชิญกับความท้าทายกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต่างๆนับไม่ถ้วน แต่ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนทำให้อุตสาหกรรมยานยต์ของไทยยังคงยืนหยัด แข็งแกร่ง สามารถทำหน้าที่เป็นเสาหลักในด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ด้วยกำลังการผลิต 3 ล้านคันต่อปี ยอดส่งออกสูงมากกว่า 1 ล้านคันต่อปี ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยสร้างรายได้คิดเป็น 2% ของ GDP ประเทศ