นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ศึกษาการนำยางธรรมชาติจากโครงการของรัฐมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยจะนำมายางธรรมชาติมาบดเผาเพื่อผสมเป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่คงต้องใช้ระยะเวลาการศึกษาซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด และจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าสามารถดำเนินการได้ก็จะต้องมีการซื้อขายยางธรรมชาติเพื่อเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยระบายสต็อกยางของภาครัฐได้อีกแนวทางหนึ่ง แต่ยืนยันในหลักการว่าจะต้องไม่กระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า เพราะจะเป็นภาระต่อผู้ใช้ไฟฟ้า โดยอาจจะต้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลเรื่องดังกล่าวด้วยเพราะรัฐบาลมีงบประมาณในการช่วยเหลือชาวสวนยางอยู่แล้ว
ส่วนความคืบหน้าการยื่นประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียม G1/61 (เอราวัณ) และ G2/61 (บงกช) ในทะเลอ่าวไทยนั้น กระทรวงพลังงานยังยืนยันตามกำหนดการเดิมที่จะเปิดให้ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติขั้นต้นยื่นประมูลข้อเสนอขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ โดยจะเปิดให้ยื่นในรูปแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ซึ่งจะมีทั้งในส่วนของเอกสารแสดงคุณสมบัติตามที่กำหนด ทั้งในส่วนคุณภาพ ,เทคนิค ,ราคา และการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกัน ถึงแม้ว่าจะมีกระแสการคัดค้านจากบางกลุ่มที่มีความเห็นแตกต่างกับการเปิดประมูลครั้งนี้ ซึ่งกระทรวงพลังงานก็พร้อมที่จะชี้แจงและทำความเข้าใจต่อไป
"เข้าใจว่าว่ายังมีบางกลุ่มที่มีความเห็นแตกต่าง ซึ่งกระทรวงก็พร้อมที่จะชี้แจงและทำความเข้าใจ การเปิดประมูลเป็นรูปแบบสากล วันที่ 25 กันยายนนี้ ก็จะเปิดรับซองเหมือนดิม ส่วนคนที่เห็นแตกต่างเราก็พร้อมชี้แจงความเห็นต่างทั้งหมด สามารถเสนอความคิดเห็นมาแลกเปลี่ยนกันได้อย่าไปแสดงท่าทีในที่สาธารณะ ให้มาที่กระทรวงพลังงานพร้อมเปิดกว้างนัดเวลามาหารือกันได้ เราทำงานเปิดกว้าง เปิดเผย"นายศิริ กล่าว
นายศิริ กล่าวว่า หลังจากการเปิดให้ยื่นเอกสารประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งบงกช และเอราวัณในวันที่ 25 ก.ย.แล้ว ก็คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 2 เดือน ซึ่งจะได้ผู้ชนะการประมูลตามกรอบที่วางไว้