นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการรับและการนำส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้เสียภาษีอากรที่เป็นผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการศุลกากรตามกฎหมายศุลกากร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศุลกากร ระหว่าง กรมสรรพากร และกรมศุลกากร พ.ศ.2561 โดยมีนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลในการบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำมาวิเคราะห์ค้นหารูปแบบความสัมพันธ์ของข้อมูลให้เกิดประโยชน์ในการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร
การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้เป็นการนำ Big Data ภาครัฐมาเชื่อมโยงเพื่อให้เกิด Data Analytics ภายใต้กระแสโลกยุคดิจิทัล และสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล ซึ่งกรมสรรพากรมีความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการทำงาน หรือเรียกว่า Digital Transformation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร ควบคู่กับการยกระดับการให้บริการและสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องมีศักยภาพในเวทีเศรษฐกิจระดับโลก
ด้าน นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ โดยทั้งสององค์กรต่างมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ที่ควรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยง ตลอดจนการพยากรณ์ต่างๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ ทั้งนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ความร่วมมือของกรมสรรพากร และ กรมศุลกากร สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของประชาชนเป็นภาพเดียวเสมือนเป็น One Government เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้มากขึ้น และพัฒนาการบริหารการจัดเก็บภาษีอากรให้ดียิ่งขึ้น