นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการนโยบายและแผนพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า การออกประกาศเชิญชวนให้ผู้ผลิตหรือผู้ค้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ยื่นเอกสารแสดงความสนใจ (REOI) ที่จะเป็นผู้จัดหา LNG ในปริมาณ 1.5 ล้านตัน/ปีให้กับกฟผ. ซึ่งได้ปิดการยื่นเอกสารเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีผู้ให้ความสนใจยื่นแสดงความสนใจทั้งสิ้น 43 รายจากทั้งในและต่างประเทศ และคาดว่าจะรู้ผลผู้ที่ผ่านคุณสมบัติในช่วงเดือน ต.ค.61 หลังจากนั้นจะเริ่มขั้นตอนการประกวดราคาและยื่นเอกสารประกวดราคา ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลผู้ชนะประมูล และลงนามสัญญาจัดหา LNG ได้ในช่วงต้นปี 62 เพื่อนำเข้ามาใช้ในโรงไฟฟ้าของกฟผ.ช่วงปลายปี 62
"ขั้นตอนนี้เป็นการเปิดให้ยื่น Pre-Qualification ก็มีผู้แสดงความสนใจเข้ามาเยอะทั้งเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง เราก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์คาดไม่ถึงว่าจะมีผู้สนใจ 43 ราย เราดีใจที่มีคนสนใจเข้ามาเยอะ ในส่วนนี้ก็อาจจะมีปตท.เข้ามาด้วย แต่ผมยังไม่ได้ดูรายละเอียด หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบภายใต้เงื่อนไขของเรา..."นายพัฒนา กล่าว
นายพัฒนา กล่าวว่า กฟผ.และ Fact Global Energy (FGE) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาจากยุโรป จะร่วมกันตรวจสอบผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องเป็นผู้ที่ประสบการณ์ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซฯ รวมถึงมีความสามารถในการจัดส่งก๊าซฯ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะได้รับ LNG ตามปริมาณที่ต้องการ หลังจากนั้นจะแจ้งต่อผู้เข้าร่วมแสดงความสนใจก่อนจะเริ่มกระบวนการประกวดราคาต่อไป
สำหรับ LNG ที่จัดหามาได้นั้นจะใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าใหม่ที่ประสิทธิภาพดีที่สุดของ กฟผ. เพื่อให้คุ้มค่ากับต้นทุนการนำเข้า LNG ซึ่งเบื้องต้นกฟผ.จะใช้สำหรับโรงไฟฟ้าวังน้อย ยูนิต 4 ขนาด 600-700 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเป็นยูนิตใหม่ ที่มีความต้องการใช้ LNG เป็นเชื้อเพลิงราว 7-8 แสนตัน/ปี หากสามารถจัดหา LNG ได้มากกว่าปริมาณดังกล่าวก็จะนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าบางปะกง ยูนิตใหม่ด้วย โดยการนำเข้า LNG ล็อตแรกน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 62
ส่วนเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกผู้จัดหา LNG ให้กับ กฟผ.นั้นจะพิจารณาที่ราคาต่ำสุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยกำหนดขั้นต่ำในการจัดส่ง LNG ที่ 8 แสนตัน/ปี และกำหนดเพดานสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านตัน/ปี ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่อนุญาตให้กฟผ.จัดหา LNG ในปริมาณ 1.5 ล้านตัน/ปี ส่วนระยะเวลาการนำเข้านั้นขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ซื่งคงต้องมีการเจรจาและสรุปกันอีกครั้ง ก่อนจะออกเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ด้านราคาต่อไป
"เราเปิดโอกาสให้คนเสนอขายมีความ flexible ในหลาย ๆเรื่อง เพราะเราอยากได้ราคาที่ถูกที่สุด ถ้าเขาเสนอขายมา 8-9 แสนตันที่ราคาถูกสุดเราก็เอา ถ้าบอกมี 1.5 ล้านตันขายเรา 10 เหรียญ แต่ถ้ามี 8 แสนตัน แล้วขายเราแค่ 5 เหรียญ เราก็เอาแค่ 8 แสนตัน จากผู้ที่เสนอมาทั้งหมดล็อตนี้ก็จะคัดเลือกเพียงรายเดียว แล้วค่อยมาว่ากันเราจะนำเข้าเพิ่มเติมอย่างไร ใครที่เสนอราคามาถูกที่สุดเราก็จะพิจารณาราคานั้น"นายพัฒนา กล่าว
นายพัฒนา กล่าวว่า หลังการคัดเลือกผู้ชนะประมูลแล้วก็จะนำเสนอต่อ กพช. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป