พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการเปิดประมูลยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยซึ่งมีกลุ่มที่มีความเห็นต่างออกคัดค้านว่า หากโครงการล่าช้าออกไปจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งหมด รัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในสภาพที่คนไทยได้ประโยชน์สูงสุด และรัฐต้องได้รับผลตอบแทนได้มากที่สุด โดยในขณะนี้เหลือเวลาเพียง 3 ปีที่จะหมดอายุสัมปทาน จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการเตรียมการส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้ได้รับสัมปทานรายใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการต่อ ซึ่งต้องมีเวลาให้ผู้ลงทุนใหม่ได้มีการเตรียมตัวด้วย
"ที่ผ่านมาเราพยายามสร้างความเข้าใจมาโดยตลอด ขอให้ทุกคนอดใจและดูให้รอบด้าน สิ่งสำคัญที่ผมเป็นกังวลตรงที่ถ้าทำไม่ได้และทำไม่ทัน มันทำให้ปริมาณก๊าซและน้ำมันที่ขุดในประเทศลดลงทันที มันทำให้พลังงานเราลดลง และมีผลต่ออุตสาหกรรมเราด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการได้คำนึงสิทธิประโยชน์ที่ภาครัฐต้องได้รับ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แต่สิ่งที่เป็นกังวล คือ ต้องมีการติดตามการปรับตัวราคาน้ำมันโลกมีการปรับขึ้นจาก 50-60 เหรียญต่อบาร์เรล เป็น 80 เหรียญต่อบาร์เรล เป็นผลมาจากกลไกของตลาด และที่ผ่านมาได้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปดูแลราคาน้ำมันในประเทศ จึงต้องไปดูข้อเท็จจริงจากการสำรวจว่า มีปริมาณน้ำมันมีเหลืออยู่เท่าไหร่ ไม่ใช่รับฟังจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วมีปัญหาไปหมด