กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้มีกลุ่มเอกชนได้เข้ายื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมประมูลแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย โดยแหล่งบงกชมีเอกชน 2 ราย ได้แก่ รายที่ 1 คือ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และ รายที่ 2 คือ บริษัท เชฟรอน กับบริษัท มิตซุย ออยล์ ส่วนแหล่งเอราวัณมีเอกชน 2 รายเข้ายื่นข้อเสนอ ได้แก่ รายที่ 1 คือ กลุ่ม PTTEP จับมือร่วมกับกลุ่มมูบาดาลา และ รายที่ 2 คือ บริษัท เชฟรอนที่จับมือกับบริษัท มิตซุย ออยล์
นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP เปิดเผยว่า บริษัทยื่นเอกสารขอเข้าร่วมประมูลทั้งสองแหล่ง
ขณะที่นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มเชฟรอนได้ร่วมกับพันธมิตรเข้าประมูลทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ โดยเชื่อมั่นว่าความรู้ และความเข้าใจ รวมถึงประสบการณ์ทางธรณีวิทยาในอ่าวไทยจะเป็นจุดแข็งในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมทั้ง 2 แหล่งได้
"มั่นใจว่าข้อเสนอของเราน่าจะเป็นข้อเสนอที่ดีที่นำมาแสดงต่อภาครัฐ และมีความรู้ความเข้าใจทางธรณีวิทยา รวมถึงการมีเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้พัฒนาแหล่ง มั่นใจว่าทางภาครัฐจะพิจารณาอย่างดีด้วย"นายไพโรจน์ กล่าว
อนึ่ง ในวันนี้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลที่ผ่านหลักเกณฑ์ตามขั้นตอนต่างๆ เข้ายื่นแผนการดำเนินงาน งบประมาณการลงทุน ข้อเสนอทางด้านเทคนิค และผลประโยชน์ตอบแทนรัฐตามเงื่อนไขหลักสำคัญที่ระบุไว้ ในทีโออาร์ เพื่อชิงสิทธิเป็นผู้ดำเนินการสำรวจ พัฒนาและผลิตก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แปลง ร่วมกับภาครัฐให้เกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
หลังจากนั้น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ในการพิจารณาเปรียบเทียบข้อเสนอเพื่อเลือกผู้ชนะการประมูล โดยจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ธ.ค.61 เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา และใช้เวลาในการเจรจาสัญญาแบ่งปันผลผลิตในขั้นสุดท้ายกับผู้ที่ชนะการประมูล ซึ่งมีเป้าหมายจะลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูลในระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับทั้ง 2 แปลง ในเดือน ก.พ.62