น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่ปัจจุบันการทำธุรกรรมโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก การใช้งานบริการพร้อมเพย์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 35%ต่อเดือน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 ธุรกรรมการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า อันเป็นผลจากการลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ และพบว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่นิยมใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ (mobile device) ในการโอนเงิน โดยคิดเป็นสัดส่วนมูลค่ากว่า 81% ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมด และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 31% ต่อเดือน สอดคล้องกับความนิยมในการใช้ mobile banking ที่เพิ่มสูงขึ้น
จากพัฒนาการและความนิยมของประชาชนในการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ธปท. และธนาคารพาณิชย์ผู้ให้บริการ จึงได้หารือร่วมกันถึงการขยายวงเงินการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ คือ internet banking และ mobile banking เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนสามารถโอนเงินในแต่ละรายการได้สูงขึ้น ไม่ต้องแยกทำรายการหลายครั้ง สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน และช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจการเงินของประชาชน ธุรกิจ และหน่วยงานต่าง ๆ
โดยสำหรับการโอนเงินด้วยเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ธนาคารพาณิชย์จะทยอยเพิ่มวงเงินสูงสุดในการโอนเงิน ตามระดับการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมของแต่ละธนาคาร จากวงเงินเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อรายการ เป็นไม่เกิน 699,999 บาทต่อรายการ