นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับรัฐมนตรีและการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 24 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2561 ณ เมืองมะละกา ซึ่งในการประชุมฯ จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าต่อผู้นำในการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 12 ในเดือนมิถุนายน 2562
เวที IMT-GT เป็นกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคครอบคลุมสามเหลี่ยมเศรษฐกิจของ 3 ประเทศ ได้แก่ (1) อินโดนีเซีย เกาะสุมาตรา 10 จังหวัด ซึ่งใกล้กับมาเลเซีย (2) มาเลเซีย ทางเหนือ/ตะวันตกของประเทศรวม 8 รัฐ ที่ติดกับไทย-อินโดนีเซีย และ (3) ไทย 14 จังหวัดภาคใต้ รวมตัวกันเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เสริมสร้างความเชื่อมโยงทั้งภายในกลุ่มและภายในหรือนอกอาเซียน ลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งเน้น 3 สาขาหลัก คือ (1) เกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร (2) ท่องเที่ยว และ (3) ผลิตภัณฑ์/บริการฮาลาล โดยมีสาขาสนับสนุน 4 ด้าน ได้แก่ (1) การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน (2) การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีการสื่อสาร (3) สิ่งแวดล้อม และ (4) การศึกษา วัฒนธรรมและทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ เป็นหน่วยงานหลักของสาขาการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Facilitation: WGTI) ซึ่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานคณะทำงานสาขาอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน
สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีและการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แผนงาน IMT-GT ครั้งที่ 24 ณ เมืองมะละกา ในครั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพด้านคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งไทยเสนอให้มีการจัดลำดับความสำคัญในแต่ละระเบียงเศรษฐกิจที่เหมาะสม สอดคล้องกับแผนการปรับบทบาทของระเบียงเศรษฐกิจของไทย เพื่อให้มีการบูรณาการร่วมกัน รวมทั้งเร่งรัดการทำความตกลงด้านการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน และบูรณาการการผ่านด่านที่มีอุปสรรค เช่น การเชื่อมโยงระหว่างด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม การเร่งรัดความร่วมมือในอนุภูมิภาคที่สามารถสร้างรายได้และส่งผลกระทบต่ออนุภูมิภาคอย่างรวดเร็ว เช่น การสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวจุดหมายเดียว การยกระดับมาตรฐานฮาลาลที่เท่าเทียมกัน ความร่วมมือด้านการแปรรูปเกษตรระดับสูงของยางพารา ปาล์มน้ำมัน ประมง เป็นต้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ จะใช้เวทีภายใต้กรอบ IMT-GT เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่าง 3 ประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลก ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ระหว่างผู้นำสามประเทศ IMT-GT ที่จะขยายความร่วมมือการเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาที่มีศักยภาพผ่านการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานระยะห้าปี (ปี 2560-2564) ให้เป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนทางด้านชายแดน ผ่านโครงการก่อสร้างพื้นฐานและเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน รวมทั้งสร้าง Platform ให้ SMEs มีโอกาสพัฒนาการค้าขายระหว่างกันและสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้