นักวิเคราะห์คาดยอดส่งออกของอินโดนีเซียเดือนพ.ย.ร่วง เหตุความต้องการลด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 2, 2008 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ธอมสัน ไฟแนนเชียลสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียอาจจะลดลงในเดือนพ.ย. หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากความต้องการทั่วโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง
ยอดส่งออกของอินโดนีเซียแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.025 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าอยู่ที่ 6.26 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าแตะระดับที่ 3.99 พันล้านดอลลาร์
"สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ อาทิ น้ำมันปาล์มดิบ ยาง และถ่านหิน เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ยอดส่งออกในปีนี้และในเดือนพ.ย.แข็งแกร่ง" เพอร์บาย่า ยุดี ซาเดวา นักเศรษฐศาสตร์จากดานาเร็คซ่ากล่าว
อย่างไรก็ตาม จูนิแมน นักเศรษฐศาสตร์จากแบงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินโดนีเซีย กล่าวว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ร่วงลงในเดือนที่แล้วอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตได้สั่งซื้อส่วนประกอบยานยนต์และวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
จูนิแมน กล่าวว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบโดยเฉลี่ยร่วงลงต่ำกว่าระดับ 800 ดอลลาร์ต่อตันในเดือนพ.ย. แต่ฟื้นตัวขึ้นเหนือระดับ 800 ดอลลาร์ในเดือนนี้
ด้านเดวิด โคเฮ็น นักเศรษฐศาสตร์จากแอ็คชั่น อิโคโนมิกส์ของสิงคโปร์กล่าวว่า ความต้องการจากสหรัฐที่ลดลงอาจส่งผลให้ยอดส่งออกลดลงไปด้วย แม้ว่าความต้องการจากประเทศในภูมิภาคเอเชียจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดยสหรัฐเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 3 ของอินโดนีเซีย รองลงมาคือญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ