นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างเกษตรกรลูกหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ธ.ก.ส.จะปรับโครงสร้างหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างยั่งยืน (กฟก.) จำนวน 36,605 ราย ที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) วงเงินไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ยอดหนี้เงินต้น 6,382,677,396.84 บาท ดอกเบี้ย 3,829,388,602.66 บาท ด้วยการพักเงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน สำหรับเงินต้นอีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ให้เกษตรกรทำสัญญาผ่อนผันชำระตามกรอบเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-3 เมื่อเกษตรกรผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาใหม่เรียบร้อยแล้ว ดอกเบี้ยที่พักไว้ ธ.ก.ส.จะพิจารณายกให้เกษตรกร ส่วนเงินต้นที่เหลืออีกร้อยละ 50 ให้นำมาปรับโครงสร้างใหม่ภายใต้ดุลพินิจของเจ้าหนี้ที่จะพิจารณาศักยภาพของลูกหนี้แต่ละราย โดยใช้หลักการที่เป็นธรรมและไม่มีผลกระทบต่อภาระของเกษตรกร
ทั้งนี้ ให้กฟก.ดำเนินการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างเข้มข้นเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ สามารถนำมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ภายในกำหนดเวลาและมีรายได้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ เห็นชอบให้การดำเนินการตามโครงการนี้ของธ.ก.ส.เป็นงบการเงินธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account:PSA) ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง
สำหรับเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ต้องจัดทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพของตนเองที่ผ่านการรับรองจากองค์กรเกษตรกรต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอ ธ.ก.ส.ในการขอปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูตามแผนหรือโครงการฟื้นฟูเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยโครงการนี้จะดำเนินการปรับโครงสร้างนี้ให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 3 ปี