กระทรวงพาณิชย์ พลังงาน และอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า เกาหลีใต้มียอดขาดดุลการค้าในเดือนธ.ค.2550 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2546 เนื่องจากมีการนำเข้าน้ำมันที่มีราคาสูงเพิ่มมากขึ้น สวนทางกับมูลค่าการส่งออกที่ชะลอตัวลง เนื่องจากราคาอุปกรณ์ชิพ เซมิคอนดักเตอร์ที่ร่วงลงอย่างหนัก
ยอดขาดดุลการค้าของเกาหลีใต้ในเดือนธ.ค.มีมูลค่าอยู่ที่ 865 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธ.ค. โดยยอดส่งออกปรับตัวสูงขึ้น 15.5% จากปีที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.3248 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 24% แตะที่ 3.4113 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยตลอดทั้งปี 2550 เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่ายอดเกินดุลการค้าที่ 1.608 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2549
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า เมื่อปี 2550 ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ปรับตัวสูงขึ้น 14.2% จากปีที่ผ่านมา แตะที่ 3.178 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ ได้แก่ เรือ จอภาพแบน เครื่องจักร ยานยนต์ เหล็ก อุปกรณ์มือถือ และชิพเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 15.3% แตะที่ 3.567 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสถานการณ์เงินวอนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศให้มีการนำเข้าสินค้าทุนและสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าของเกาหลีใต้ในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ โดยประเมินว่า ยอดส่งออกจะขยายตัวขึ้น 11.6% แตะที่ 4.15 แสนล้านดอลลาร์ และยอดนำเข้าจะเพิ่มขึ้น 12.7% แตะที่ 4.02 แสนล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--