นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มเติม เพื่อรักษาระดับราคาไม่เกิน 30 บาท/ลิตร หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่กว่า 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ ดูไบ อยู่ที่เกือบ 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ระดับต่ำเพียง 1.12 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญสากลมีความกังวลถึงการที่สหรัฐฯใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในวันที่ 4 พ.ย.นี้ อาจทำให้หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าและหลังของวันที่ 4 พ.ย.นี้ ราคาน้ำมันจะมีความอ่อนไหวมาก ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมาที่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกดีเซลบ้าง ก็จะต้องชี้แจงและทำความเข้าใจต่อสังคม โดยทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ก็จะพิจารณาในเรื่องดังกล่าวต่อไป
"แต่ตอนนี้กระทรวงพลังงานยืนยันว่ายังไม่มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลแต่อย่างใด เนื่องจากกองทุนน้ำมันยังมีเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท ส่วนราคา NGV ที่ขยับขึ้นมาอยู่ระดับเกิน 15 บาท/กิโลกรัมนั้น กระทรวงพลังงานก็จะเน้นดูแลราคาดีเซลก่อน"นายศิริ กล่าว
อนึ่ง ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 30 ก.ย.61 มีทั้งสิ้น 25,142 ล้านบาท โดยเป็นบัญชีน้ำมัน 29,213 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ติดลบ 4,071 ล้านบาท โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯในส่วนบัญชี LPG เพื่อดูแลราคาขายปลีก LPG ไม่เกิน 363 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม โดยให้กรอบบัญชี LPG ติดลบไม่เกิน 7,000 ล้านบาท และมีมติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท เพื่อดูแลราคาขายปลีกดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร
นายศิริ กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงพลังงานยังใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร โดยขณะนี้ใช้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไปแล้ว 60 สตางค์/ลิตร ภายใต้กรอบที่กบง.อนุมัติไว้ไม่เกิน 1 บาท/ลิตร หรือวงเงินรวม 6,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ใกล้ถึงกรอบที่กำหนดแล้ว ดังนั้น กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาว่าจะใช้เงินกองทุนฯเสริมเข้าไปอีกหรือไม่ เพื่อไม่ให้ค่าการตลาดต่ำเกินไป
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การแต่งตั้งผู้อำนวยการ สนพ. นั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาต่อไป ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน จะมีการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ จัดระเบียบความจำเป็น ทั้งในส่วนของงบประมาณปี 2561 (เพิ่มเติม) และงบประมาณปี 2562 ซึ่งจะพิจารณาโครงการที่มีความจำเป็นก่อน