ก.เกษตรฯ เดินหน้าจัดทำแผนการพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาในระยะต่อไป หลังมีผู้มาขึ้นทะเบียนแล้ว 187 ราย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 5, 2018 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงความก้าวหน้ากรณีการจัดทำสัญญาแนะนำตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ.2560 ในโอกาสครบรอบ 1 ปีว่า ปัจจุบันสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนพระราชบัญญัติฯ โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้ 1) รับแจ้งการประกอบธุรกิจและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรแล้วจำนวน 187 ราย 2) จัดเก็บเอกสารสำหรับการชี้ชวนและร่างสัญญาฯ จากผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรเพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ และติดตามการทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา โดยมีผู้ประกอบธุรกิจนำส่งแล้วจำนวน 52 ราย มีเอกสารสำหรับการชี้ชวนฯ 67 เรื่อง

3) ดำเนินการไกล่เกลี่ยและยุติข้อพิพาท โดยมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้วจำนวน 2 เรื่อง ในพื้นที่ 2 จังหวัด และอยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 1 เรื่องในพื้นที่ 16 จังหวัด และ 4) ดำเนินการออกประกาศหลักเกณฑ์ตามที่พระราชบัญญัติฯ กำหนดเรียบร้อยแล้วจำนวน 4 ฉบับ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 2 ฉบับ

สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ได้แก่ 1) การจัดทำแผนการพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา 2) การพัฒนาบุคลากรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่ และ 3) การกำหนดรูปแบบสัญญาแนะนำและส่งเสริมการนำไปใช้

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติฯ และรายละเอียดการทำสัญญาตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติฯ ให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรรับทราบอย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรจัดส่งร่างสัญญาให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เก็บไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบร่างสัญญาจากผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรในเบื้องต้นยังไม่พบร่างสัญญาที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติฯ

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนกฎหมายเกษตรพันธสัญญาว่า พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560 เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการทำการเกษตรในระบบเกษตรพันธสัญญา โดยวางหลักเกณฑ์และมาตรการในการกำกับดูแลการทำสัญญาให้เกิดความเป็นธรรม โดยกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรมีหน้าที่จัดทำเอกสารสำหรับการชี้ชวนและร่างสัญญาให้เกษตรกรทราบล่วงหน้า เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้าทำสัญญา

โดยเอกสารสำหรับการชี้ชวน จะต้องมีรายละเอียดตามที่พระราชบัญญัติกำหนด ตามมาตรา 20 รวมทั้งยังมีข้อกำหนดในเชิงควบคุมการทำสัญญาเพื่อดูแลให้การจัดทำสัญญาเกิดความเป็นธรรมกับคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย ตามมาตรา 21 และมาตรา 26 เช่น ต้องทำเป็นหนังสือ ระยะเวลาในการทำสัญญาต้องสอดคล้องกับระยะเวลาคืนทุน ราคาและวิธีการคำนวณวัตถุดิบและผลผลิตกำหนดอย่างไร และใช้ราคา ณ เวลาใด วันและสถานที่ส่งมอบ เหตุยกเว้นไม่ปฏิบัติตามสัญญากรณีเกิดเหตุสุดวิสัย ใครเป็นผู้รับความเสี่ยงภัย การเยียวยาความเสียหาย สิทธิการบอกเลิกสัญญา และกำหนดให้ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมไม่สามารถใช้บังคับได้

นอกจากนี้ คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญายังได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้ใช้ในกำกับดูแลและการขับเคลื่อนการทำเกษตรพันธสัญญาในประเทศไทยด้วย

รองโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในมาตรา 10 (3) ของพระราชบัญญัติฉบับนี้ยังกำหนดให้คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา มีหน้าที่กำหนดรูปแบบสัญญาแนะนำ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรและเกษตรกรนำรูปแบบสัญญาดังกล่าวไปใช้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรและเกษตรกร ได้เข้าถึงรูปแบบสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม

โดยเรื่องนี้คณะกรรมการฯ ในการประชุมเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติมอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำการศึกษาและจัดทำสัญญาแนะนำเพื่อเผยแพร่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำสัญญาแนะนำเบื้องต้นและเผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างจัดทำสัญญาแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้มีรูปแบบสัญญาที่หลากหลาย และครอบคลุมการผลิตผลิตผลหรือบริการทางการเกษตรในแต่ละชนิด และจะเสนอคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาให้ความเห็นชอบและส่งเสริมการนำไปใช้ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ