นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวในที่ประชุมติดตามการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมวันนี้ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และผู้บริหารกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมว่า ในช่วงเวลา 5 เดือนนี้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งและจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ต้องการให้โครงการคมนาคมขนส่งของกระทรวงคมนาคมเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จ และให้ดำเนินโครงการคมนาคมสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย
"ไม่ต้องห่วงเรื่องงบประมาณ ขอให้คิดว่าจะไปท่องเที่ยวเมืองรองอย่างไร การท่องเที่ยวฯจะสามารถเข้ามาช่วยอย่างไร ถ้าเราเอาจริงเอาจัง เราช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการของการท่าเรือฯหรือโครงการต่างๆ ... อีก 3 เดือนจะเปิดการเลือกตั้ง อีก 2 เดือนก็จะมีรัฐบาลใหม่ เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้อย่าทำอะไรให้เสียเวลา อย่าไปรอเลือกตั้งรอรัฐบาลใหม่ ไม่เช่นนั้นจอดไม่ต้องแจว...เมื่อเรือบิน รถไฟ ถนนเกิดบ้านเมืองก็จะได้เจริญ ไม่ใช่รอให้เมืองเจริญ"นายสมคิด กล่าวกับในที่ประชุม
ขณะเดียวกันได้กำชับให้นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เร่งจัดทำแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่ ในเวลา 30 วัน จากที่นายสุเมธ ระบุจะใช้เวลาภายใน 45 วัน ซึ่งจะนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รอบใหม่ โดยก่อนหน้านี้การบินไทยได้เคยมีแผนจะจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ แต่รอบใหม่นี้มีแผนจัดหา 23 ลำ ดังนั้นจะต้องทบทวนแผนการบิน และเส้นทางบินใหม่
"ไม่ต้องถึง 45 วัน เป็น 30 วัน เรื่องลดต้นทุนก็ต้องลง ธุรกิจก็ต้อง Expand ให้มากขึ้น เอาใหม่ไปคุยเรื่องนี้ให้เร็ว เอากรรมการสามารถมานั่งคุย ภายในธันวาคมนี้ต้องให้จบ Investor รออยู่ ถ้ามีปัญหาเปลี่ยนบอร์ด ท่านสุเมธ อธิบดีกรมสรรพากร ถ้าทำไม่ได้ก็เปลี่ยน ทำให้ดี ๆ ภายในธันวาคมนี้ให้จบ ไม่มีข้อต่อรอง"รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตามแผนงาน กระทรวงคมนาคมเตรียมจะนำเสนอหลายโครงการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในระหว่างเดือน ต.ค.61-ก.พ. 62 พร้อมเร่งรัดทุกโครงการ โดยในเดือนต.ค.นี้ โครงการที่จะนำเสนอครม. ได้แก่ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มีโครงการท่าเรือ F มูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาทและโครงการท่าเรือ E รวมทั้งหมดมูลค่า 1.14 แสนล้านบาท มีกำหนดลงนามสัญญาใน มี.ค. 62 และโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน ที่อู่ตะเภา (TG MRO Campus) มูลค่าราว 1.05 หมื่นล้านบาท ซึ่ง THAI ร่วมทุนกับแอร์บัส มีกำหนดลงนามสัญญา กพ..62 ทั้งสองโครงการได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดอีอีซี) แล้ว
รวมทั้งโครงการมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม- ชะอำ มูลค่า 7.7 หมื่นล้านบาทของกรมทางหลวง ศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม และ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่ง เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งทั้ง 3 โครงการได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ PPP โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)จะนำเสนอต่อครม.
ในเดือน พ.ย.นี้ จะนำเสนอโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แก่ สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต- ม.ธรรมศาสตร์รังสิต มูลค่า 6.5 พันล้านบาท สายสีแดงอ่อนช่วง ศิริราช - ตลิ่งชัน มูลค่า 7.4 พันล้านบาท และ ตลิ่งชัน - ศาลายา มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยระหว่างนี้เตรียมเสนอคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)อนุมัติโครงการเสียก่อนเข้าครม.
รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาทและ โครงการการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระหว่างนี้รอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำเสนอต่อครม.ในเดือน ธ.ค.นี้