ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ของสหรัฐ มีคำสั่งไม่ให้ระบายน้ำมันจากสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ออกมาเพียงเพื่อจะสกัดความร้อนแรงของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นในขณะนี้
นางดานา เพอริโน่ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐประกาศว่า "ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช มีคำสั่งไม่ให้ระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ ออกมาใช้ จนกว่าจะมีสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆเท่านั้น"
"เป็นที่ทราบกันดีในขณะนี้ว่า ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันก็มีอยู่มากเช่นกัน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า การระบายน้ำมันจากคลังสำรองยุทธศาสตร์ออกมาใช้เป็นการชั่วคราวนั้น ไม่ได้ช่วยให้ราคาปรับตัวลดลงมากนัก" โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้พุ่งทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนที่ผ่านมา
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐมีคำสั่งให้ตั้งสำรองน้ำมันดิบทางยุทธศาสตร์ขึ้นเมื่อปี 2518 หลังจากที่มีการห้ามขนส่งน้ำมันกับชาติอาหรับจนกระทั่งถึงปี 2520
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ สหรัฐมีน้ำมันดิบในคลังสำรองอยู่ 695.5 ล้านบาร์เรล เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ซึ่งต่อมาประธานาธิบดีบุชมีคำสั่งให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในอีก 20 ปีข้างหน้า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--