นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการในร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร รวม 4 ฉบับ (การปรับปรุงมาตรการภาษีเกี่ยวกับสำนักงานใหญ่) โดยสาระสำคัญคือ เป็นการปรับปรุงมาตรการภาษีเกี่ยวกับสำนักงานใหญ่ อันจะส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับความโปร่งใสด้านภาษี การจัดเก็บภาษีอย่างเป็นธรรม และการต่อต้านการกัดกร่อนฐานภาษีและการโยกย้ายกำไร (BEPS) รวมทั้งป้องกันไม่ให้ถูกมาตรการตอบโต้จากประเทศอื่นๆ ซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีดังกล่าวนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยได้อีกทาง
"จากที่ไทยจะเข้าเป็นสมาชิกด้าน BEPS กับ OECD ซึ่งตามหลักการแล้ว จะต้องไม่ออกมาตรการที่ก่อให้เกิดการกัดกร่อนฐานภาษี หรือการโยกย้ายกำไร เช่น เดิมเรามีมาตรการว่าคือถ้าบริษัทไหนมาตั้ง IHQ ในไทย จะได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับกำไรที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ และเก็บภาษีที่เกิดจากกำไรในประเทศ 10% สิ่งที่เกิดขึ้นคือ บริษัทจะโยกรายได้ในต่างประเทศเข้ามาไว้ในไทย ทำให้ประเทศต้นทางขาดรายได้ทางภาษี ซึ่ง OECD ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรมต่อประเทศต้นทาง" นายณัฐพรระบุ
ปัจจุบัน กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรมีมาตรการภาษีเกี่ยวกับสำนักงานใหญ่ 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1. สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค (Regional Operating Headquaters) หรือ ROH1 ตาม พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 405) พ.ศ.2545
2. สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค (ROH2) ตาม พ.ร.ฎ.ออกตามความนประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 405) พ.ศ.2545 ซึ่งได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฏรกร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 508) พ.ศ.2553
3. สำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters) หรือ IHQ ตาม พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 568) พ.ศ.2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 612) พ.ศ.2559
4. บริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Center) หรือ ITC ตาม พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 587) พ.ศ.2558
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่า การปรับปรุงมาตรการภาษีเกี่ยวกับสำนักงานใหญ่ดังกล่าว มิได้ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้เพิ่มเติมจากมาตรการภาษีเกี่ยวกับ ROH1, ROH2, IHQ, ITC ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ประกอบกิจการ ROH1 จำนวน 98 ราย, ROH2 จำนวน 23 ราย, IHQ จำนวน 171 ราย และ ITC จำนวน 28 ราย โดยอาจทำให้มีรายได้จากภาษีเงินได้นิติบุคคเพิ่มขึ้นประมาณ 370 ล้านบาท
อีกทั้งยังส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย ทั้งจากการลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ควบคู่กับการให้ความร่วมมือแก่นานาประเทศอันจะส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับความโปร่งใสด้านภาษี การจัดเก็บภาษีอย่างเป็นธรรม และการต่อต้าน BEPS รวมทั้งป้องกันไม่ให้ถูกมาตรการตอบโต้จากประเทศอื่นด้วย